สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

ต้นสะเดา หนึ่งในไม้เศรษฐกิจชั้นดีแห่งอนาคต

ต้นสะเดา เป็นต้นไม้ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจมากอีกชนิดหนึ่ง ยืนยันได้จากการที่ได้รับการยอมรับให้เป็นสินทรัพย์ที่สามารถใช้ค้ำประกันเงินกู้จากสถาบันการเงินได้ ตามระเบียบเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด รวมกับพรรณไม้ชนิดอื่นๆ รวมเป็น 58 ชนิด ดังนั้นสำหรับคนที่ยังมีที่ดินว่างเปล่าของตนเองเหลืออยู่ โดยที่ยังไม่มีแผนว่าจะปลูกพืชชนิดใดเพื่อหาประโยชน์ในระยะยาว การปลูกต้นสะเดาจำนวนมากในรูปแบบสวนเกษตร ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะอย่างน้อยๆ ก็จะได้ลำต้นที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นในระยะยาว สามารถสะสมมูลค่าไว้เป็นมรดกที่งอกเงยให้แก่ทายาทรุ่นต่อไปได้

ต้นสะเดา เป็นพืชพื้นเมืองที่คนไทยรู้จักกันดี เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ถึงใหญ่ สูงได้ถึง 25 เมตร เจริญเติบโตรวดเร็ว ในบ้านเราพบเห็นได้ทั่วๆ ไปอยู่ 3 ชนิดได้แก่ สะเดาไทย สะเดาอินเดีย ซึ่งสะเดา 2 ชนิดนี้มีลักษณะใกล้เคียงกันมาก อาจจะแตกต่างบ้างเล็กน้อย ตรงเปลือกลำต้น ช่อดอก และ ขนาดของผล ในขณะที่สะเดาไทยเป็นพืชพื้นเมืองที่พบได้มากทั่วทุกภาคในประเทศ แต่สะเดาอินเดีย พบได้มากในภาคเหนือ และบริเวณใกล้กับชายทะเล นอกจากนี้ยังมีสะเดาช้างหรือสะเดาเทียม ซึ่งเป็นสะเดาอีกชนิดหนึ่งที่พบมากทางภาคใต้เท่านั้น และใช้ค้ำประกันเงินกู้ได้เช่นกัน แต่สะเดาเทียมจะนิยมใช้ประโยชน์เป็นไม้แปรรูปมากกว่า

ต้นสะเดาไทยเป็นพืชทนแล้ง ทนอากาศร้อนได้ถึง 45 องศาเซลเซียส ต้องการน้ำฝนตามฤดูกาล แต่หากปลูกในพื้นที่มีปัญหาภัยแล้ง โดยไม่ได้รับน้ำเลย ก็จะมีผลเสียเรื่องของความสมบูรณ์ของใบ ดอกและผล ส่วนเรื่องสภาพดินนั้น ไม่มีปัญหาใดๆ ยกเว้นแต่พื้นที่น้ำท่วมขังเป็นเวลานานเท่านั้น ซึ่งอาจพูดได้ว่า ต้นสะเดานั้น ทนอยู่รอดได้ในทุกสภาพแวดล้อมของประเทศไทย เพียงแต่จะเจริญเติบโตได้รวดเร็วหรือช้า จะสมบูรณ์แข็งแรงมีกิ่งก้านใบ ให้ดอก ให้ผล ได้บริบูรณ์แค่ไหน ก็ต้องขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของดินและน้ำ เป็นหลักเหมือนกันกับพืชชนิดอื่นๆทั่วไป

สำหรับประโยชน์จากต้นสะเดานั้น นอกจากจะขายเนื้อไม้เพื่อทำเป็นไม้แปรรูปที่มีความคงทนแข็งแรงเป็นที่ต้องการของตลาดในระยะยาวแล้ว  ในระยะสั้นที่สุด ก็คือการเก็บยอดอ่อนและช่อดอกของสะเดาขายซึ่งมีพ่อค้าที่รอรับซื้ออยู่มากมาย เพราะยอดสะเดาน้ำปลาหวาน เป็นอาหารยอดนิยมสำหรับคนไทยอยู่แล้ว นอกจากนี้เกษตรกรผู้ปลูกต้นสะเดา สามารถขอคำปรึกษาจากหน่วยงานด้านเกษตรในพื้นที่ เพื่อขอความรู้ที่ถูกต้องในการเก็บรักษา ครอบครองและแปรรูปผลผลิตจากสะเดา เพื่อส่งขายเป็นวัตถุดิบสมุนไพร เพราะส่วนต่างๆ ของสะเดา มีทั้งสารสกัดสมุนไพร และสารสกัดที่ออกฤทธิ์ทางเคมี ที่สามารถใช้ผลิตเป็นเวชภัณฑ์ หรือ ยาชนิดต่างๆ ได้ รวมไปถึงใช้ผลิตเป็นสารกำจัดแมลงศัตรูพืชที่มีความรุนแรงได้ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ถ้าหากเพื่อนๆเกษตรกร ได้รับคำปรึกษาหรือได้ความรู้ดีๆ จะสามารถหาประโยชน์ จากต้นสะเดา ซึ่งมีมูลค่าแฝงที่มหาศาลมากว่าการขายแค่ใบอ่อนยอดอ่อนเพียงอย่างเดียวครับ

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook