สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

พืชคลุมดิน เพื่อป้องกันการกัดเซาะและชะล้างพังทลายของดิน

พื้นที่ยิ่งลาดเอียงยิ่งต้องใส่ใจการปลูกพืชคลุมดิน และยังมีประโยชน์ในการเพิ่มปริมาณน้ำในดิน ช่วยควบคุมโรคและกระตุ้นความหลากหลายทางชีวภาพ การปลูกพืชคลุมดินจึงถือว่าเป็นการลงทุนระยะยาวในการปรับปรุงสมบัติดินและเป็นการวางแผนในการจัดการฟาร์ม ซึ่งจะช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุให้กับดิน แม้ว่าช่วงเริ่มต้นปลูกพืชคลุมดินจะไม่ได้ผลเท่าที่ควร จะมีต้นที่ตายบางส่วน ทำให้เราต้องลงทุนปลูกซ่อม และอาจจะต้องใช้เวลาระยะหนึ่งเพื่อกำจัดหญ้าวัชพืช เพื่อรอให้พืชนั้นสามารถคลุมดินได้เต็มบริเวณ จึงจะลดการดูแลลงได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปการลงทุนจะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า ขณะเดียวกันพืชคลุมดินก็สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการเลี้ยงสัตว์ได้ด้วย

พืชคลุมดินควรเป็นพืชที่ปลูกแล้วเติบโตได้เร็ว มีรากแน่นแตกรากเร็ว เพื่อยึดเกาะดินและองค์ประกอบของดินไว้เมื่อเกิดลมหรือน้ำมาชะล้างดิน โดยเราจะนำพืชเหล่านี้มาปลูกบนแปลงในช่วงหลังจากเก็บเกี่ยวพืชหลัก โดยการหว่านระหว่างแนวปลูกของไม้ผลและไมยืนต้น หรือปลูกตามทางระหว่างแปลงก็ได้ พืชที่เลือกมาปลูกควรเป็นพืชที่ทนทานกับสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ที่เราปลูก ทนแดด ทนร้อน ทนแล้ง ทนโรค เติบโตได้ดีในทุกสภาวะ ยิ่งเป็นพืชตระกูลถั่วจะยิ่งดีมากเพราะช่วยตรึงไนโตรเจนให้ดิน ระยะห่างระหว่างพืชคลุมดินและพืชประธานนั้นเราต้องใส่ใจอย่างมาก อย่าปล่อยให้พืชคลุมไปก่อกวนพืชหลักในแปลง โดยเฉพาะพืชคลุมดินที่เป็นไม้เลื้อย อาจจะมีเถาเลื้อยไปกวนพื้นที่ปลูกของไม้หลักได้

พืชที่พวกเรานิยมนำมาปลูกคลุมดินโดยทั่วไปจะเป็นพืชตระกูลถั่ว เพราะมีคุณสมบัติที่ดีครบถ้วน มีรากลึก ทนต่อสภาพแวดล้อมทุกแบบนั่นเองครับ ถั่วที่เรานำปลูกชนิดแรกคือถั่วลาย ที่มีใบหนาแน่นมาก เถาเยอะ เจริญเติบโตไว บริเวณรากมีปมเยอะช่วยยึดดินได้ดี เถามีความเหนียวทนทาน ไม่เปื่อยง่าย ปลูกได้ตลอดทั้งปี ไม่ต้องห่วงเรื่องน้ำ ส่วนถั่วอีกชนิดคือถั่วคุดชู แม้จะทนแล้งและเถาไม่เหนียวเท่าถั่วลาย แต่ระยะยาวแล้วใบจะทึบและมีความแข็งแรงมาก และถั่วชนิดเถาเลื้อย คลุมดินได้ทันใจภายในครึ่งปี คือ คาโลโกเนียม ทนแล้งจัดไม่ได้ และปลูกแต่ละรุ่นจะมีอายุเพียงปีครึ่งครับ ซึ่งถ้าเลือกปลูกพันธุ์นี้ ข้อดีคือได้พืชคลุมดินทั่วพื้นที่อย่างรวดเร็ว แต่ก็มีอายุสั้นครับ แต่หากอยากได้พืชคลุมดินที่เติบโตเร็วกว่าถั่ว คงต้องหันไปใช้หญ้าแพรก ที่โตไวภายในระยะเวลา1-2 เดือน หรือจะเป็นหญ้าแพรกยักษ์ที่ลำต้นสูงใหญ่กว่าหญ้าแพรกทั่วไปที่คลุมดินได้ทันใจไม่แพ้กันครับ

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook