สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

กระดังงา ไม้ดอกกลิ่นหอม

กระดังงาหรือสะบันงาที่เป็นชื่อเรียกทางภาคเหนือนั้น เป็นชื่อของไม้เลื้อยยืนต้นที่มีกลิ่นหอมและชอบขึ้นอยู่ในสภาพอากาศร้อนชื้น เป็นไม้ตระกูลเดียวกับน้อยหน่า เพื่อนๆ เกษตรกรหลายรายมักปลูกดอกกระดังงาเพื่อส่งขายเป็นวัตถุดิบสำหรับการแปรรูปเป็นน้ำมันหอมระเหยเพื่อใช้บรรเทาอาการปวดเมื่อย รวมทั้งบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ และยังสามารถนำน้ำมันหอมระเหยจากดอกกระดังงาไปใช้ไล่แมลงที่มารบกวนพืชพันธุ์ต่างๆ ที่เพาะปลูกได้อีกด้วย เรียกได้ว่ามีประโยชน์อย่างมากมายเลยล่ะครับ โดยทั่วไปกระดังงานั้นนิยมปลูกตามรั้วบ้านเพราะเป็นพืชที่เลื้อยขึ้นตามรั้วบ้านทั้งยังมีกลิ่นหอมในทุกเช้าจึงนิยมใช้เป็นทั้งไม้ดอกและไม้ประดับ

กระดังงาเป็นไม้เลื้อยที่อาศัยค้างหรือแนวไม้ แนวลวดใช้ยึดเกาะ สามารถเจริญเติบโตได้สูงถึง 20 เมตร ลำต้นจะแข็งแรงตามอายุของต้น ลักษณะลำต้นเป็นพุ่มสูงมีลักษณะก้านงอลง ใบมีสีเขียวเข้มรูปไข่ มีรอยหยักเหมือนเกลียวคลื่นเล็กน้อย ใบแตกออกตลอดทั้งกิ่ง กิ่งของต้นกระดังงาเป็นไม้เนื้อแข็ง ให้ดอกสีเหลืองกลีบดอกยาวงุ้มและมีกลิ่นหอมเย็น

การปลูกต้นกระดังงาสามารถทำได้ 2 วิธีคือการเพาะเมล็ดและการปักชำกิ่งครับ แต่เรามักใช้วิธีการเพาะเมล็ดเพราะการปักชำกิ่งในการปลูกต้นกระดังงานั้นเสี่ยงต่อการได้ต้นพันธุ์ที่ไม่ดีรวมทั้งกิ่งอ่อนแอจนทำให้เกิดโรคพืชได้ เพราะแม้ว่าต้นกระดังงาจะมีลำต้นและก้านที่หนาและแข็งแรง แต่เมื่ออายุของต้นกระดังงามากขึ้นก็อาจทำให้ก้านนั้นเปราะและหักง่ายได้ การปักชำกิ่งจึงไม่ใช่วิธีการที่ดีในการปลูกต้นกระดังงาครับ ส่วนในการเพาะเมล็ดกระดังงานั้นก็สามารถทำได้ไม่ยาก โดยเริ่มจากการเตรียมดินไว้ กระดังงาจะชอบดินร่วนหรือดินที่ไม่ชุ่มน้ำ หรือมีน้ำเยอะจนเกินไป ต้นกระดังงาจะขึ้นได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้น ต้องเป็นดินที่ระบายน้ำดี สามารถปลูกได้ในบริเวณรั้วบ้านหรือในสวนในไร่ เมื่อเตรียมดินไว้พร้อมแล้วก็ให้ ขุดหลุมเตรียมปลูกเมล็ดให้ขนาดหลุมประมาณ 50*50*50  เซนติเมตร จากนั้นก็นำปุ๋ยหมัก ถ้าใครไม่มีปุ๋ยหมักก็ใช้เป็นปุ๋ยคอกแทนก็ได้ครับผสมกับดินร่วน อัตราส่วน 1:2  และใช้ดินดังกล่าวในการปลูก  หากอยากได้ดอกกระดังงาสวยงามก็ควรปลูกไว้ในที่ที่มีแสงแดดส่องถึง แต่ถ้าอยากได้ใบหรือลำต้นที่สวยแล้วจะปลูกไว้ในที่ร่มก็ได้ครับ

การดูแลนั้นก็ไม่อยากเพียงแค่หมั่นรดน้ำทุกๆ วันวันละสองครั้ง เช้าเย็น เพื่อให้ต้นกระดังงาได้รับน้ำอย่างสม่ำเสมอ ทั้งยังควรดูแลตัดแต่งกิ่งอยู่เสมอด้วยนะครับ เพื่อให้ต้นไม่สูงจนเกินไปและอย่าลืมดูแลไม่ให้แมลงมาทำให้ต้นอ่อนแอลงได้ เพียงเท่านี้ก็สามารถปลูกต้นกระดังงาได้แล้วล่ะครับ

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook