สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

กระต่าย เลี้ยงง่ายโตเร็ว

ในปัจจุบันมีการเพาะเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจกันเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น หมู เป็ด ไก่ หรือ วัว ที่เพื่อนๆ เกษตรกรมักจะเลี้ยงไว้เพื่อนำผลผลิตหรือเนื้อไปขาย เพราะเป็นสัตว์ที่อยู่คู่กับเรามาเป็นเวลาช้านานแล้ว แต่ใครจะรู้ล่ะว่านอกจากสัตว์เศรษฐกิจที่เราคุ้นชินกันแล้วยังมีการเพาะพันธุ์สัตว์เลี้ยงอีกชนิดหนึ่งที่สามารถสร้างรายได้ให้ผู้เพาะเลี้ยงได้หลายบาทเลยทีเดียว สัตว์ที่ว่านั้นก็คือ เจ้ากระต่ายที่มีขนปุกปุยนั้นเองครับ  เพราะกระต่ายสายพันธุ์ต่างๆ ที่นิยมเลี้ยงกันในไทยเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก โดยในท้องตลาดมักจะซื้อกระต่ายเพื่อนำไปเลี้ยงเป็นสัตว์สวยงาม และยังรับซื้อไว้เป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ในการเพาะเลี้ยงพันธุ์กระต่ายอีกด้วย ที่สำคัญยังมีการรับซื้อกระต่ายเพื่อนำไปแปรรูปเป็นเนื้อไว้บริโภครับประทานกันด้วยครับ

วิธีการเพาะพันธุ์และเลี้ยงกระต่ายเชิงพาณิชย์นั้น ให้เริ่มจากการสร้างโรงเรือนที่มีลักษณะสูงโปร่ง โดยให้สูงจากพื้นประมาณ 50 เซนติเมตร เพื่อไม่ให้มูลของกระต่ายที่ขับถ่ายออกมาส่งกลิ่นเหม็น ควรสร้างโรงเรือนในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกและมีลมพัดเกือบตลอดเวลา ในทำเลที่ไม่มีน้ำท่วมถึง เพราะกระต่ายชอบอาศัยในพื้นที่ที่มีอากาศไม่ร้อนและไม่อับชื้นจนเกินไป มีหลังคาเพื่อกันความร้อนและมีตาข่ายล้อมรอบเพื่อไม่ให้กระต่ายหนีออกไปได้

จากนั้นก็ให้เลือกแม่พันธุ์และพ่อพันธุ์ที่พร้อมจะผสมพันธุ์เข้ามาไว้ในกรงเดียวกัน โดยสังเกตแม่พันธุ์กระต่ายที่พร้อมจะผสมพันธุ์ซึ่งอยู่ในช่วงติดสัดได้จากการลูบหลังกระต่ายเพศเมีย หากกระต่ายตัวเต็มวัยทำก้นกระดกขึ้นแปลว่าอยู่ในช่วงพร้อมผสมพันธุ์ ให้ย้ายกระต่ายแม่พันธุ์ไปไว้ในกรงเดียวกับพ่อพันธุ์ได้เลย ห้ามย้ายพ่อพันธุ์ไปหาแม่พันธุ์ เพราะอาจจะทำให้กระต่ายตัวเมียที่หวงอาณาเขตกัดตัวผู้ได้ จากนั้นก็ให้เวลา 1-2  วัน จึงจะจับกระต่ายพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์แยกไว้คนละกรงดังเดิม  กระต่ายจะใช้เวลาตั้งท้องประมาณ 30-40 วันถึงจะคลอด โดยแม่พันธุ์จะสามารถคลอดลูกได้ครั้งละ 5-8 ตัว และแม่พันธุ์กระต่าย 1 ตัวยังสามารถผสมพันธุ์และคลอดลูกได้ถึงปีละ 4-5 ครั้งอีกด้วยครับ

การเลี้ยงกระต่ายนั้นเราสามารถให้อาหารด้วยหญ้าขน ร่วมกับการให้อาหารกระต่ายสำเร็จรูปแบบเม็ด เพื่อให้กระต่ายได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนและมีสุขภาพดี โดยให้อาหารวันละ 1-2 ครั้งในปริมาณขนาด 1 กำมือ ไม่ควรให้อาหารบ่อยเพราะอาจทำให้กระต่ายอ้วนและเมื่อผสมพันธุ์จะติดลูกได้ยาก เพียงเท่านี้ก็สามารถเลี้ยงกระต่ายไว้เพาะพันธุ์ขายได้อย่างง่ายดายแล้วล่ะครับ

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook