สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

ข่อย ไม้แต่งสวนมากสรรพคุณ

ข่อย เป็นพืชใบเลี้ยงคู่ มีการงอกแบบใบเลี้ยงอยู่ใต้ดิน ลำต้นเหนือใบเลี้ยงมีขนอ่อน และมีลำต้นที่คดไม่ตรง มีข้อและปุ่มตามลำต้น เปลือกของลำต้นบาง ผิวไม่เรียบ มีน้ำยางข้นเหนียว สีผิวเปลือกลำต้นเป็นสีเทาแกมเขียว แตกแขนงเป็นพุ่มหนาแน่น ลักษณะใบมีขอบคล้ายฟันเลื่อย ใบหนาทรงรี ปลายแหลม แผ่นใบและก้านใบมีขนละเอียดคลุมอยู่ ดอกเพศเมียเป็นดอกเดี่ยว ผลิดอกสีขาวครีมบริเวณกิ่งหลัก ส่วนดอกเพศผู้จะผลิบนก้านช่อเดียวกันแต่จะเกิดบนกิ่งแขนง ให้ผลเป็นผลเมล็ดเดียวแข็ง ผลกลมคล้ายไข่ สีเขียว เมื่อแก่จะมีสีเหลืองเป็นอาหารที่บรรดานกโปรดปรานมาก

ประเทศอินเดียได้บันทึกข่อยไว้ในตำราอายุรเวท เพราะมีสารออกฤทธิ์ที่เหมาะสมในการรักษาอาการเจ็บป่วยหลายอย่าง เช่นเปลือกของต้นข่อย นำมาใช้บำรุงร่างกายเป็นยาอายุวัฒนะ บำรุงหัวใจ และยังนำมาต้มเพื่อรักษาอาการอักเสบในช่องปาก สามารถนำมากิ่งสดมาหั่น ทุบให้แตกแล้วเคี่ยวในน้ำ เพื่อนำมาบ้วนปากได้อีกด้วย หรือจะนำเมล็ดข่อยมารับประทานเพื่อรักษาอาการในช่องท้องและลำไส้ ทั้งแก้ท้องเสียและอาการปวดเกร็งได้ ส่วนใบข่อยสามารนำมารักษาอาการปวดประจำเดือนในสตรีได้ด้วยการนำมาตากแห้งและชงเป็นชาดื่มร้อนๆ

นอกจากสรรพคุณทางยาแล้ว ข่อยยังถูกนำมาใช้ประโยชน์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น กิ่งสดของต้นข่อยที่ถูกนำมาใช้สีฟันก่อนที่จะมีแปรงสีฟันในยุคปัจจุบัน มีฤทธิ์ในการป้องกันฟันผุ ส่วนของยางต้นข่อยสามารถนำมาย่อยน้ำนมและใช้กำจัดแมลงวัชพืชต่างๆ เนื้อไม้และเปลือกนำมาใช้ในการผลิตกระดาษเพื่อทำเป็นสมุดข่อยและทำเป็นกระดาษ เพราะเนื้อไม้ข่อยมีความเหนียวคงทนมาก และที่นิยมที่สุดในปัจจุบันคือการนำมาต้นข่อยมาตกแต่งสวน ทำรั้ว และทำไม้ดัด ซึ่งเราสามารถพบเห็นได้ทั่วไป เพราะพุ่มที่มีใบหนาทึบทำให้สามารถตัดแต่งออกมาได้งดงามและยังเป็นไม้มงคล ที่นิยมนำมาปลูกกันในวันเสาร์และปลูกในทิศตะวันออกของบ้าน โดยเชื่อว่าจะป้องกันสมาชิกในบ้านจากอันตรายภายนอก

ด้วยความนิยมปลูกมาก จึงเกิดเป็นช่องทางให้เพื่อนๆเกษตรกรหลายคน หันมาปลูกต้นข่อยเพื่อเป็นกระถางและไม้ตกแต่งสวน และปลูกตามแนวรั้วเพื่อปิดบังสายตาของคนภายนอก หรือบดบังจุดที่ไม่พึงประสงค์ เพื่อจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคทั่วไปที่อาจไม่ชำนาญเรื่องการเพาะขยายพันธุ์ โดยการทำแปลงปลูกและปลูกต้นข่อยในหลุมที่มีปุ๋ยและดินสัดส่วน 1:2 แต่ถ้าปลูกในกระถางเลย ก็ให้ใช้สัดส่วนเท่าๆกันแทนนะครับ ขยายพันธุ์โดยการปักชำจะเหมาะสมที่สุด พอจ้นกล้าเริ่มตั้งตรงก็สามารถนำมาขายได้แล้วครับ แต่เมื่อต้นเริ่มเติบโตราคาขายก็จะสูงขึ้นด้วยนะครับ

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook