สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังนา รายได้ทดแทนนาปรัง

จากปัญหาภัยแล้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกปี ทำให้ความหวัง ในการปลูกข้าวนาปรัง เพื่อสร้างรายได้เพิ่มของเพื่อนๆเกษตรกรในหลายพื้นที่นั้น ดูเลือนราง และ ริบหรี่ลงไปทุกที ในขณะที่ภาครัฐเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ต่อปัญหาของเกษตรกร และ จึงพยามคิดหาวิธีในการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรม เรียกว่าการจัด“โซนนิ่ง” (Zoning) เพื่อให้มีความเหมาะสมและใช้ประโยชน์ได้สูงสุด

ดังนั้นโครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ในนาข้าวเพื่อทดแทนการทำนาปรังในช่วงหน้าแล้ง จึงเกิดขึ้น โดยรัฐให้การสนับสนุนเต็มที่ ทั้งด้านสินเชื่อ ให้ความรู้ในการปลูก รวมไปถึงการเปิดจุดรับซื้ โครงการนี้จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ แก่เพื่อนๆ เกษตรกร เพียงแต่ยังมีคำถามว่า การปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทดแทนข้าวนาปรังนั้น จะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าจริงหรือ ? เพราะถึงแม้ว่า ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จะเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญ แถมยังปลูกได้ไม่พอกับความต้องการ แต่ทำไมที่ผ่านยังเห็นข่าวเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด ต้องเจอกับปัญหาเดือดร้อนขาดทุน เพราะขายผลผลิตได้ ไม่คุ้มทุน จนต้องเรียกร้องให้ภาครัฐลงมาดูแลแก้ปัญหาให้อยู่เสมอ

ก่อนอื่นขอเล่าความเป็นมาให้เข้าใจก่อนว่า การปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ใช้น้ำน้อยกว่าการทำนา 2-3 เท่า ดังนั้นพื้นที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยส่วนใหญ่แทบทั้งหมด หรือประมาณ 96 % จึงอยู่นอกเขตชลประทาน แต่ในพื้นที่ปลูกทั้งหมดนี้ มีถึง 40% เป็นพื้นที่ ที่ไม่เหมาะสมต่อการปลูกข้าวโพด เช่น พื้นที่ลาดชัน บนดอย เชิงเขา ซึ่งปัญหาการขาดทุนของเพื่อนๆ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากปัญหาราคารับซื้อตกต่ำ แต่เป็นเพราะต้นทุนการปลูกสูง โดยเฉพาะคนที่ปลูกในพื้นที่ไม่เหมาะสม ทั้งค่าปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ ค่าแรงเก็บเกี่ยว เป็นต้นแต่ข้าวโพดที่ปลูกได้มักจะมีอัตราผลผลิตต่อไร่ต่ำ แถมยังมีความชื้นสูง เพราะส่วนใหญ่ปลูกกันในช่วงหน้าฝน จึงทำให้ผลผลิตข้าวโพดกว่า 95 % ออกมาสู่ตลาดแบบกระจุกตัว มีความชื้นสูง ส่งผลทำให้เพื่อนเกษตรกรที่ต้องการได้เงินเร็วจะถูกกดราคารับซื้อ ต่างจากผลผลิตในช่วงหน้าแล้งมักจะได้ราคาดี  มีต้นทุนค่าแรงต่ำ เพราะไม่ต้องเร่งเก็บเกี่ยวครับ

ด้วยสาเหตุนี้ โครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังนา จะช่วยสร้างรายได้ให้แก่เพื่อนๆเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ซึ่งมีพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตชลประทานแต่ติดขัดกับปัญหาภัยแล้ง ทำให้มีน้ำไม่พอทำนาปรัง หากต้องการรายได้เสริม ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจถ้าจะหันมาปลูกข้าวโพด โดยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นพืชที่ดูแลง่าย มีระยะเวลาปลูกเพียง 120 วัน มีช่วงฤดูในการปลูก 2-3 ฤดู แล้วแต่พื้นที่ คือ ต้นฤดูฝน ได้ผลผลิตมากถึง 70% ของทั้งปี ปลายฤดูฝน ได้ผลผลิต 25%  ฤดูแล้ง ได้ผลผลิต 5% ของทั้งปี  ส่วนราคารับซื้อผลผลิตนั้นอ้างอิงจากราคาข้าวโพดในตลาดโลกกันเลยทีเดียว ซึ่งพื้นที่นาข้าวส่วนใหญ่มักจะเป็นพื้นที่ราบลุ่มที่เหมาะสมอยู่แล้วในการเพาะปลูกพืชชนิดต่างๆ พอหลังจากทำนาปีเสร็จ ก็ไม่ต้องเผาตอซังฟางข้าว โดยสามารถไถกลบ เพื่อปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ได้ต่อเนื่องไปเลยครับ

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook