สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

ครั่ง ศัตรูพืช ผลผลิตมีมูลค่า

ครั่ง ถูกนับว่าเป็นสัตว์จำพวกเดียวกับเพลี้ย ที่ชอบดูดกินน้ำหวานของต้นไม้ จนทำให้ต้นไม้สูญเสียสมดุลและเหี่ยวแห้งลงได้ เป็นต้นเหตุที่ทำให้พืชผลที่ปลูกไว้ได้รับความเสียหายเพราะทำให้ผลผลิตลดลง และยังเป็นต้นเหตุของโรคพืชต่างๆอีกด้วย  จึงถือได้ว่าเจ้าครั่งต้วเล็กพวกนี้เป็นศัตรูพืชเช่นเดียวกับ เพลี้ย

แต่ครั่งไม่เพียงแต่จะเป็นศัตรูของพืชเท่านั้น แต่ก็ยังคงมีประโยชน์ เพราะครั่งสามารถให้รายได้อย่างมหาศาล จากผลผลิตที่เกิดจากครั่ง เพราะครั่งจะชอบปล่อยน้ำครั่งดิบ ซึ่งมีสีแดงเข้มเกือบน้ำตาลคล้ายน้ำผึ้ง เพื่อป้องกันตัวเองจากศัตรู ทำให้มีการนำน้ำครั่งดิบไปใช้ประโยชน์ในหลายแขนง ไม่ว่าจะเป็นประโยชน์ทางด้านการรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ หรือจะเป็นการแปรรูปในโรงงานอุตสาหกรรมที่นำครั่ง มาใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น นำมาสีแดงที่สกัดได้จากยางครั่ง มาใช้เป็นสีผสมอาหาร สีฟอกย้อมผ้า ส่วนเนื้อครั่งสามารถนำมาเคลือบงานไม้ให้สีเรียบเนียนได้ จึงทำให้ครั่งเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมากเลยละครับ

ครั่งจะสามารถฟักไข่หลังผสมพันธุ์ได้เพียงแค่ 10-20 นาทีไข่ก็จะถูกฟักออกสู่ภายนอก โดยจะเกาะอยู่ตามใบพืชต่างๆ เพื่อที่จะเจาะดูดน้ำหวานในใบพืช ไข่ครั่งจะมีสีแดง และครั่งตัวอ่อนจะขับน้ำเหนียวๆมาห่อหุ้มบริเวณตัวเพื่อให้แน่ใจว่าตัวมันจะปลอดภัยจากอันตราย และไม่นานครั่งอ่อนก็จะโตและมีเพศ ตัวเมียของครั่งสามารถผสมพันธ์ุได้ 2 แบบ ทั้งแบบอาศัยเพศและไม่อาศัยเพศ

วิธีการเลี้ยงครั่งนั้น จะเริ่มจากการเลือกต้นไม้ที่มีสภาพเหมาะกับการเลี้ยงครั่ง ซึ่งจะต้องเป็นไม้ที่แข็งแรงไม่อ่อนและแก่จนเกินไป ต้นไม้ที่นิยมนำมาเลี้ยงครั่งส่วนใหญ่ก็จะมี จามจุรี พุทราป่า สะแก ปันแถ และทรงต้นไม้ที่นำมาเลี้ยงจะต้องไม่มีใบขึ้นทึบหนาจนเกินไปครับ เพราะจะทำให้มีความชื้นสูงจึงควรใช้ต้นไม้ทรงพุ่มโปร่ง โดยครั่งจะชอบอาศัยตามกิ่งอ่อนเมื่อเลี้ยงไว้บนต้นแล้วก็ควรตัดกิ่งต้นแก่ทิ้งไปบ้าง วิธีการเตรียมพันธุ์ครั่ง ให้ตัดพันธุ์ครั่งเป็นท่อนประมาณ 7 นิ้วและนำไปห่อด้วยฟางข้าว จากนั้นก็ใช้เชือกผูกไว้ที่ปลายทั้งสองด้าน นำครั่งที่ห่อแล้วมัดให้ติดๆกันจากนั้นก็นำพันธุ์คลั่งไปปล่อยไว้บนต้นไม้ที่เตรียมไว้เลี้ยงครั่งให้ทั่วทั้งต้นจะใช้วิธีผูกติดขนาดไว้กับต้น หรือใช้ไม้หามเพื่อปล่อยพันธ์ุครั่งก็ได้ครับ เพียงเท่านี้ก็สามารถเก็บครั่งไปขายหลังจาก 3-4 อาทิตย์ได้แล้วล่ะครับ ครั่งจะอนุบาลตัวเองและหาอาหารกินเองได้โดยการดูดน้ำหวานจากต้นพืชนอกจากจะประหยัดต้นทุนทางการดูแลแล้ว ยังให้ผลผลิตสูงอีกด้วย หากใครสนใจก็ลองนำไปเพาะเลี้ยงกันได้นะครับ

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook