สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

ต้นกระเทียมเถา สมุนไพรดอกสวย

กระเทียมเถา ไม้ที่มีชื่อภาษาไทยแปลตรงตัวจากชื่อภาษาอังกฤษ ว่า Garlic vine ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Mansoa alliacea แต่ชนอเมริกันพื้นเมืองเรียกอีกชื่อว่า Ajos Sacha ซึ่งเป็นพืชเป็นเถาวัลย์เขตร้อนที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ตอนเหนือ ตั้งแต่บราซิลจนถึงตอนใต้ของเม็กซิโก ก่อนที่จะกระจายพันธุ์ไปทั่วโลกตั้งแต่ หมู่เกาะเปอร์โตริโก และหมู่เกาะอินเดียตะวันตกไปจนถึงแอฟริกาตอนใต้และประเทศไทย  กระเทียมเถายังถูกขนานนามว่า False Garlic เพราะถึงแม้ว่าพืชชนิดนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับพืชประเภทกระเทียมแท้ๆ  แต่เมื่อใบของกระเทียมเถาถูกบดขยี้กลับมีรสชาติและกลิ่นที่เหมือนกระเทียมมาก จึงถูกนำมาใช้แต่งกลิ่นในอาหารแทนกระเทียม

กระเทียมเถา ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องปรุงรสและสมุนไพรมาช้านาน โดยนำส่วน ราก ลำต้น และใบ มาใช้เพื่อลดไข้ รักษาโรคหวัด ไข้หวัดใหญ่ บรรเทาอาการเจ็บคอ โรคทางเดินหายใจ โรคไขข้อ และอาการโรครูมาติก นอกจากนั้นยังนิยมนำมาปลูกเป็นไม้กระถางและไม้เลื้อยตามซุ้มประตูหรือตามรั้วเพื่อบังสายตาจากคนภายนอก และยังมีดอกสวยงามด้วย แต่รั้วหรือซุ้มประตูที่จะใช้สำหรับอิงอาศัยนั้นจะต้องมีโครงการที่แข็งแรง เพราะกระเทียมเถามีลำต้นที่ใหญ่ ทำให้มีน้ำหนักมาก

กระเทียมเถาเป็นไม้เลื้อยที่มีอายุหลายปี โดยจะใช้มือพันไปเรื่อย ๆ เป็นพืชที่อัตราการเจริญเติบโตระดับปานกลาง สามารถเจริญทอดยาวได้ถึง 10 เมตร เถาวัลย์จะยึดตัวเองไว้รอบๆ ลำต้นของต้นไม้ที่อิงอาศัยขนาดใหญ่ เพื่อช่วยอุ้มน้ำหนักของเถาวัลย์ขนาดใหญ่ของต้นกระเทียมเถาไว้ และไต่ยอดขึ้นไปชูรับแสงแดด ทำให้แตกใบสีเขียวขจีขนาดใหญ่ โคนใบกลมมน ปลายใบแหลม ใบหนาเป็นมันวาว ขอบใบเนียนเรียบ และมีมือจับแตกออกที่ปลายยอด แตกดอกสะพรั่งพร้อมกันทั้งต้น ออกดอกเป็นกระจุกที่ง่ามใบประกอบด้วยดอกย่อยจำนวน 10-15 ดอก สีม่วงแกมขาว แต่ละดอกย่อยมีกลีบที่บานออกคล้ายลำโพงจำนวน 5 กลีบ ออกดอก 1 ครั้งต่อปีในช่วงหนาวเย็น หากอากาศยิ่งหนาวเย็นมาก ดอกจะมีขนาดใหญ่และมีสีสันสดใสอย่างเห็นได้ชัด ให้ผลออกมาเป็นฝัก ภายในฝักมีเมล็ดจำนวนมาก เมล็ดลักษณะแบนและมีปีกเมล็ด

สำหรับการเพาะปลูกกระเทียมเถา ควรปลูกในดินที่ระบายน้ำดี เช่น ดินร่วน และ ดินร่วนปนทราย ไม่ควรปลูกในดินเหนียว จัดวางในบริเวณที่รับแสงได้ตลอดทั้งวัน หากไม่ได้สร้างซุ้มหรือเสาให้เลื้อย ควรนำไปปลูกไว้ใกล้กับต้นไม้ใหญ่ที่แข็งแรง และรดน้ำวันละ 2 ครั้งช่วงเช้าและเย็นในช่วงเริ่มต้นและให้ปุ๋ยบำรุงสม่ำเสมอ หลังจากที่ต้นไม้แข็งแรงแล้วจึงเว้นระยะการให้น้ำ เมื่อไม้เริ่มแตกใบให้หมั่นตัดแต่งทรงพุ่มให้สวยงาม

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook