สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

ต้นกาหลง ดอกหอมชื่นใจชวนหลงใหล

ต้นกาหลง หรือ สมุนไพรกาหลง มีชื่อสามัญภาษาอังกฤษว่า Snowy Orchid หรือ Orchid Tree จัดเป็นหนึ่งในพืชตระกูลถั่วที่มีลำต้นขนาดใหญ่ที่อยู่ในวงศ์ย่อยเดียวกันกับต้นคูณ เป็นพรรณไม้ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันพบได้มากในไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ลาว เมียนมาร์ กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย เป็นต้น คนเหนือเรียกว่าเสี้ยวน้อย ส่วนทางอีสานเรียกว่าส้มเสี้ยว มองผ่านๆจะมีลักษณะคบ้ายต้นโยทะกาและต้นชงโคซึ่งมักจะนำมาจัดกลุ่มและปลูกเป็นกลุ่มอยู่ใกล้ๆ กันตามสนามกลางแจ้งและสถานที่สาธารณะ เนื่องจากเป็นพืชที่ไม่ต้องดูแลมากนัก มีความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ดี เติบโตได้ดีตามธรรมชาติ

ส่วนต่างๆ ของ ต้นกาหลงสามารถนำมาใช้ประโยชน์เป็นได้ทั้งอาหารและยา โดยในส่วนของดอกอ่อนนั้นสามารถนำมาลวกรับประทานได้ ขณะเดียวกันทั้งดอกและรากก็สามารถนำมาช่วยบรรเทาอาการปวดหัว ดอกและต้นนำมารักษาอาการเลือดออกตามไรฟัน ต้นและรากใช้ขับเสมหะ แก้เจ็บคอ เป็นต้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก่อนที่จะนำมาใช้ประโยชน์พึงระวังว่าใบของต้นกาหลงนั้นมีขนอ่อนปกคลุมอยู่ เมื่อสัมผัสแล้วอาจเกิดอาการแพ้ได้

ต้นกาหลง เป็นไม้พุ่มที่มีความสูงระหว่าง 1-3 เมตร มีทรงพุ่มที่มีรูปทรงสวย ลำต้นมีสีน้ำตาลอ่อน ผิวขรุขระไม่เรียบ สีเปลือกไม้เป็นสีน้ำตาลอ่อน แต่งกิ่งก้านตั้งแต่ช่วงกลางลำต้น ช่วงเริ่มแตกกิ่งจะมีขนบางๆ สีขาวที่บริเวณยอดอ่อน และผิวกิ่งจะเริ่มเกลี้ยงเรียบเนียนเมื่อแก่ แตกใบสีเขียวเป็นใบเดี่ยวแบบเรียงสลับข้าง ใบคล้ายใบบัวขนาดเล็ก มองคล้ายรูปใบโพธิ์ก็มี ขนาดใบมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 10 เซนติเมตร ขอบใบเรียบ แผ่นใบเรียบแต่ใต้ใบมีขนบางๆ ประปราย ใบหลุดร่วงง่าย มักผลัดใบช่วงกลางฤดูหนาวก่อนที่จะผลิใบใหม่อีกครั้งราวเดือนเมษายนเป็นต้นไป

ต้นกาหลงจะผลิดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง แต่ละช่อจะมีดอกย่อยสีขาวกลิ่นหอมอยู่รวมกันราว 2-3 ดอกเป็นกระจะ ดอกตูมจะมีความยาวราว 3-4 เซนติเมตร แต่เมื่อดอกบานเต็มที่จะมีขนาดกว้างถึง 8 เซนติเมตร ออกดอกได้ทั้งปี จึงกลายเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่คนนิยมต้นไม้ชนิดนี้ ส่วนของผลกาหลงจะมีลักษณะเหมือนพืชตระกูลราชพฤกษ์ที่ให้ผลเป็นฝักแบน เมื่อเริ่มออกฝัก ตัวฝักจะมีสีเขียวอ่อนแต่ผ่านไปซักระยะฝักจะเปลี่ยนสีกลายเป็นสีน้ำตาล ฝักจะมีความยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร และกว้างประมาณ 1-2 เซนติเมตร ขอบฝักหนาเป็นสัน ภายในฝักจะมีเมล็ดขนาดเล็กและแบนอยู่ภายในประมาณ 6-10 เมล็ด เมื่อร่วงหล่นลงมายังพื้นดิน สามารถจะขยายพันธุ์ได้

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook