สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

ต้นกุ่มบก สมุนไพรใช้ได้ทุกส่วน

ต้นกุ่มบก หรือ ผักก่ามทางภาคอีสานและผักกุ่มของทางภาคเหนือบ้านเรา เป็นพืชดั้งเดิมของทางเอเชียเรา บ้างก็ว่ามีถิ่นกำเนิดในประเทศญี่ปุ่น บ้างก็ว่ามีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในทุกวันนี้ก็สามารถพบได้ในหลายประเทศของเอเชียรวมไปถึงประเทศออสเตรเลียด้วย ในบ้านเราในอดีตจะปลูกต้นกุ่มบกไว้ทั้งเพื่อใช้เป็นอาหารแทนยา เป็นสมุนไพร และเป็นไม้ประดับมงคล โดยนัยยะของความเป็นมงคลนั้น ว่ากันว่า คำว่ากุ่ม คือ ความเป็นกลุ่ม ความสามัคคี หากปลูกไว้ในรั้วบ้านอาณาบริเวณจะทำให้สมาชิกในบ้านเรือนมีความรักใครปรองดองกัน ทำให้ช่วยกันสร้างความมั่นคงให้กิจการในครอบครัวได้ดี และดอกที่สวย ฟอร์มต้นที่เด่นจึงถูกนำมาปลูกเป็นไม้ประดับกันมาก

สำหรับการนำส่วนต่างๆ ของต้นกุ่มบกมาใช้เป็นสมุนไพรนั้น สามารถนำทุกส่วนมาใช้ได้ ยกตัวอย่างเช่น ส่วนราก นำมาใช้แก้อาการกองลม หรือจะนำมาใช้เป็นยาบำรุงร่างกายบำรุงธาตุ  ใช้ขับน้ำหนองจากแผลอักเสบภายนอก ส่วนของเปลือกต้น ใช้บำรุงธาตุธาตุไฟ ปรับสมดุลร่างกาย บำรุงประสาท บรรเทาอาการคลื่นเหียน ขับลมในกระเพาะอาหาร กระตุ้นการย่อยอาหาร แก้ปวดบิดมวนในท้อง แก้สะอึก ขับปัสสาวะ ขับน้ำเหลืองน้ำดี ลดอาการบวมน้ำ แก่นไม้ใช้บรรเทาอาการริดสีดวงทวารและบำรุงโลหิต ใบช่วยขับลมและขับพยาธิ ขับเหงื่อ บำรุงหัวใจ และสามารถนำมารักษาโรคผิวหนังภายนอกได้ ดอก บรรเทาอาการเจ็บคอ ผลใช้เป็นยาระบาย เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม การจะนำส่วนต่างๆ ของต้นกุ่มบกไปใช้ประโยชน์นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาถึงปริมาณการใช้ที่เหมาะสมและข้อควรระวังสำหรับกลุ่มบุคคลเปราะบาง เพราะในสมุนไพรแต่ละชนิดนั้น มีสารประกอบที่แตกต่างกัน ดังนั้น ก่อนที่จะนำไปใช้เป็นสมุนไพรหรือยารักษาอาการใด ควรมีการเข้ารับคำแนะนำจากแพทย์แผนไทยที่มีอนุญาตหรือแพทย์แผนปัจจุบันเสมอ

ต้นกุ่มบก เป็นไม้ขนาดกลางมีความสูงราว 6-15 เมตร ลำต้นมีเปลือกสีเทาแดงอมน้ำตาล แตกกิ่งก้านกระจายไม่หนาแน่นมาก เปลือกไม้มีผิวเรียบ พบรอยแตกบ้างในบางครั้ง กิ่งก้านมีความเปราบาง หักง่ายเพราะเป็นไม้เนื้ออ่อน ใบเป็นประกอบ ประกอบด้วยใบย่อย 3 ใบรูปทรงรียาวคล้ายไข่ ผิวใบเรียบ มัน ผลิดอกบริเวณปลายยอดเป็นกระจุก ดอกแรกแย้มมีสีขาวแล้วจึงเปลี่ยนเป้นสีเหลืองอ่อนหรือชมพูอ่อนในที่สุด ให้ผลเป็นลูกกลมเปลือกแข็ง สีผลจะเป็นสีน้ำตาลแดง ด้านในผลมีเมล็ดอยู่ตรงกลาง สามารถขยายพันธุ์ได้โดยการเพาะเมล็ดและปักชำในดินร่วนที่ระบายน้ำได้ดีและมีแสงแดดส่องถึงตลอดทั้งวัน

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook