สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

ต้นนกน้อย หรือต้นนางกวักสาลิกาลิ้นทอง

ต้นนกน้อย นำโชค หรือที่เราเรียกกันอีกชื่อว่า ต้นนางกวักสาลิกาลิ้นทอง มีชื่อสามัญภาษาอังกฤษว่า Slipper plant และยังมีฉายาน่ารักๆ ว่า Love Bird อีกต่างหาก  เป็นไม้ดอกที่มีต้นกำเนิดในแถบอเมริกาใต้และอเมริกากลาง และยังพบได้ในประเทศอื่น ๆ ในทวีปเอเชียรวมไปถึงประเทศออสเตรเลียด้วย ความโดดเด่นของต้นไม้ชนิดนี้ก็คือดอกไม้ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับนกตัวน้อยๆ ที่ผลิออกมาระหว่างใบประดับ สวยงามมาก และต้นนกน้อยยังเป็นต้นไม้มงคล ที่มีความเชื่อกันว่านำโชค ลาภ เงินทอง มาให้แก่ผู้ครอบครองต้นไม้นี้ด้วย

ต้นนกน้อยนำโชค เป็นไม้อวบน้ำ โตช้า มีความสูงตั้งแต่ 1 เมตรไปจนถึง 3 เมตร ลำต้นและกิ่งมีสีเขียวอ่อน ก้านเป็นปล้อง ส่วนใหญ่จะไม่มีกิ่งก้าน ผิวภายนอกของลำต้นมีความมันวาว ด้านในมียางเหนียวสีขาวข้น ขนาดของลำต้นมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2-3 เซนติเมตร ใบไม้มีน้อยและสลัดใบเร็ว

นกน้อยเป็นพืชที่ไม่ต้องบำรุงมากนัก ทำให้การดูแลเป็นเรื่องง่าย เพราะเป็นไม้ที่ทนต่อความแห้งแล้ง ทนต่อความร้อน และเจริญเติบโตได้ดีในสภาพที่แสงแดดเพียงพอและดินที่ระบายน้ำได้ดี ไม่เกี่ยงว่าดินจะเปรี้ยวหรือเค็ม ขอให้ระบายน้ำดีก็เติบโตได้ หากปลูกในที่ที่แสงแดดจัดจะยิ่งทำให้ผลิดอกได้ดียิ่งขึ้น เป็นไม้ดอกที่ไม่ใช้น้ำเยอะ สีของกลีบใบจะเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพอากาศ โดยช่วงฤดูฝนจะมีสีเขียวแต่พอเข้าสู่ฤดูหนาวจะกลายเป็นสีแดงเจิดจ้างดงาม ทำให้เป็นเอกลักษณ์ที่ผู้คนหลงใหลและนำมาปลูกประดับในบ้านกันอย่างกว้างขวาง ทั้งปลูกเพื่อประดับบ้านเรือนและปลูกเพื่อนำไปเป็นของฝากแก่ผู้หลักผู้ใหญ่

การเพาะพันธุ์ต้นนกน้อยสามารถทำได้ทั้งแบบปักชำและเพาะเมล็ด แต่หากเราคิดจะทำในเชิงการค้า เพาะพันธุ์เพื่อจำหน่ายไม้กระถาง อาจจะต้องใช้การเสียบยอดเพื่อได้ปริมาณมากโดยใช้เวลาไม่มากนัก โดยการเสียบกับต้นตอแสยก ใช้เวลาราว 2 สัปดาห์กิ่งจึงติดและดูแลต่ออีก 8 สัปดาห์ก็สามารถนำไปขายได้ครับ ยิ่งต้นสมบูรณ์เท่าไรก็ขายได้ราคาดีเท่านั้นครับ และราคาก็ผันแปรไปตามความสูงของต้นด้วยครับ ดังนั้นการบำรุงด้วยปุ๋ยคอกและการรดน้ำย่างเหมาะสมจังเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยครับ

ทิ้งทายไว้สำหรับเพื่อนๆ เกษตรกรที่จะขยายพันธุ์ด้วยการเพาะชำนั้น จะต้องระวังอย่าสัมผัสยางของต้นนกน้อยนะครับ เพราะยางมีความพิษ อาจจะแพ้ได้ ควรสวมถุงมือให้เรียบร้อยก่อน และควรนำกิ่งที่เราตัดมาผึ่งแดดซักพักให้ยางแห้งก่อนที่จะนำไปชำนะครับ เพื่อความปลอดภัยของเราเองครับ

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook