สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

ต้นนนทรี นิยมปลูกเพื่อให้ร่มเงา

ต้นนนทรี อ่านออกเสียงว่า “ต้น-นน-ซี” มีชื่อเรียกภาษาอังกฤษว่า Copper pod หรือ Yellow flame ต้นไม้ชนิดนี้ถูกใช้เป็นต้นไม้สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ ประจำจังหวัดนนทบุรี เป็นพืชที่พบได้ในป่ามาช้านาน โดยเชื่อว่ามีแหล่งกำเนิดของพืชมาจากหลายประเทศเขตร้อน เริ่มตั้งแต่อินเดีย ศรีลังกาเรื่อยไปจนถึงตอนบนของประเทศออสเตรเลีย และยังพบว่าได้รับความนิยมปลูกเพื่อเป็นร่มเงาในหลายประเทศที่มีภูมิอากาศอบอุ่น เช่น ประเทศไนจีเรีย ประเทศปากีสถานและเมืองฟลอริด้าและฮาวายของประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนในประเทศไทยเรานั้นพบว่ามีวรรณกรรมที่ได้กล่าวถึงต้นนนทรีจนเป็นที่ประจักษ์มาแต่โบราณ ยกตัวอย่างเช่น ลิลิตพระลอ ที่ร้อยเรียงขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นเมืองหลวง

เสน่ห์ของต้นนนทรีนั้นคือการแตกดอกเหลืองอร่ามสะพรั่งท่ามกลางใบสีเขียวเข้มเย็นตา มองแล้วร่มรื่นและเย็นใจอย่างยิ่ง และยังสามารถผลิดอกมากกว่า 1 ครั้งต่อปีอีกด้วย โดยลักษณะของลำต้นนั้นจะเป็นลำต้นสูงเรียวตั้งตรงไม่มีกิ่ง มีความสูงตั้งแต่ 5 เมตรถึง 15 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางของลำต้นประมาณ 0.5 เมตรถึง 1 เมตร จัดเป็นไม้ผลัดใบ สีของเปลือกลำต้นออกโทนสีเทา ผิวเปลือกมีรอยแตกเล็กๆ ประปราย ผิวแข็งและหนา ใบนนทรีนั้นเป็นใบประกอบแบบขนนก มักออกแบบตรงข้ามอย่างหนาแน่นที่บริเวณปลายของกิ่งไม้ ผิวหน้าใบมีสีเขียวแก่ ส่วนท้องใบเป็นสีเขียวอ่อน มีขนาดกว้างและยาวประมาณ 0.5*1 เซนติเมตร ดอกนนทรีจะเริ่มผลิในช่วงก.พ.-มี.ค.และบ้านสะพรั่งเต็มที่เรื่อยไปจนถึง พ.ค.ส่วนของผลนั้นจะมีลักษณะเป็นฝักเช่นเดียวกับพืชในวงศ์ถั่วอื่นๆ ลักษณะฝักแบนปลายแหลม ฝักจะเป็นสีเขียวเมื่อยังอ่อนและเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเมื่อแก่เต็มที่ในช่วงเดือน พ.ย.ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศในแต่ละปี

ประโยชน์ของต้นนนทรีนั้น ถูกนำมาใช้ประโยชน์หลายอย่าง ตั้งแต่การนำเปลือกไม้ที่มีสารแทนนินมาใช้เป็นยาแผนโบราณเพื่อเป็นยาสมานแผล แก้อาการฟกช้ำและบวมของผิวภายนอก คลายปวดเมื่อย ส่วนสีน้ำตาลปนเหลืองที่ได้จากเปลือกไม้นั้น ชาวพื้นถิ่นในอินโดนีเซียจะนำมาใช้ย้อมผ้าบาติกและอุตสาหกรรมสิ่งทอต่างๆ ส่วนของเนื้อไม้เป็นไม้เนื้อแข็ง สีน้ำตาลออกแดง เนื้อเนียนเรียบ มีความแข็งแรงทนทาน สามารถนำมาประกอบเป็นเครื่องเรือนต่างๆ เช่น ตู้ไม้ หีบใส่ของ หรือนำมาใช้ในงานก่อสร้างบ้านเรือน โดยนำไม้นนทรีมาทำเป็นไม้พื้น กรอบวงกบประตู หน้าต่างหรือประตูรั้วบ้าน และยังสามารถนำไปต่อเรือได้ด้วย ทั้งนี้มีความเชื่อกันว่าไม้ชนิดนี้เป็นไม้มงคล

การปลูกต้นนนทรีสามารถทำได้ด้วยการเพาะเมล็ดซึ่งใช้เวลารอจนเป็นต้นอ่อนราว 7 วัน ก่อนที่จะย้ายลงถุงดำเพื่อดูแลอย่างใกล้ชิดอีก 3 เดือน แล้วจึงย้ายลงหลุมปลูกต่อไป

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook