สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

ถังพ่นยา อีกอุปกรณ์การเกษตรที่สำคัญ

ถังพ่นยา คืออุปกรณ์การเกษตร หรือเครื่องมือการเกษตรชิ้นหนึ่ง ที่เรามักจะมีติดบ้านติดสวน เพื่อใช้ในการพ่นน้ำยากำจัดศัตรูพืชให้แก่พืชผลในสวนของเรา แม้ว่าในปัจจุบันเกษตรกรบางส่วนหันมาใช้สมุนไพรหรือชีวภัณฑ์มาควบคุมแมลงมากกว่าสารเคมีแล้ว แต่ถังพ่นยาก็ยังคงมีความสำคัญอยู่เช่นเดิม เพราะโดยทั่วไปสมุนไพรที่เราใช้เพื่อกำจัดศัตรูพืชนั้นจะใช้น้ำเป็นตัวทำละลายให้สมุนไพรออกฤทธิ์หรือตัวนำพา และจะต้องใช้เครื่องพ่นยาเข้ามาช่วยในการพ่นน้ำสมุนไพรเพื่อให้เกิดการกระจายตัวของละอองสมุนไพรได้ดี ถังพ่นยานั้นเหมาะสำหรับการใช้งานในสวนที่ไม่กว้างมาก หากมีพื้นที่เพาะปลูกมากก็อาจจะต้องใช้เครื่องพ่นประเภทที่มีเครื่องยนต์มาทำงานแทนครับ

เครื่องพ่นขนาดเล็กนั้น จะมีถังพ่นยาเป็นส่วนสำคัญที่ใช้เป็นภาชนะที่บรรจุน้ำยาสมุนไพร โดยตัวถังนั้นอาจจะทำมาจากวัสดุที่เป็นพลาสติกหรือโลหะก็ได้ มีขนาดบรรจุของเหลวได้ประมาณ 1-2 แกลลอน หรือของแข็งประเภทละอองแห้งหรือได้ราว 1-2 กิโลกรัม โดยเราจะเทสมุนไพรกำจัดแมลงลงไปในถังพ่นยาแล้วเติมน้ำลงไปเพื่อให้เจือจางสมุนไพรน้ำ หรือหากใช้สมุนไพรผง เราก็ใช้นำเทลงไปเพื่อเป็นตัวทำละลายผงเหล่านั้น ในถังนั้นจะมีปั๊มอากาศที่เราต้องกดตรงก้านกระเดื่อง เพื่อให้เกิดแรงดันลมขึ้นในหลอดดูดน้ำยา ให้ดันน้ำยาออกมาเป็นละอองที่ปลายหัวฉีด พ่นสารสมุนไพรออกไปยังพืชผลของเรา

สำหรับการใช้สารปรุงแต่งชนิดผงละลายน้ำและสารเข้มข้นชนิดน้ำมันที่ละลายน้ำได้ จะนิยมใช้ในถังพ่นยาแบบติดท่อปลายสายยาง จะมีหัวพ่นเสียบกับสายยาง สามารถปรับขนาดของละอองฝอยน้ำยาได้ และสามารถปรับทิศทางได้ แต่ไม่สามารถพ่นในแนวสูงได้นะครับ เพราะถังพ่นยาแบบนี้มีแรงดันต่ำ แต่หากต้องการแรงดันที่เยอะ ต้องใช้ถังพ่นยาแบบอัดแรงลม โดยอากาศที่ถูกอัดเข้าไปในถังจะก่อให้เกิดแรงดันน้ำยาให้ดันเข้าไปในหัวฉีดเมื่อเราทำการเปิดวาล์วน้ำ โดยวัสดุที่ใช้ทำถังพ่นยาแบบนี้ควรจะเป็นโลหะหรือพลาสติกที่ทนความร้อนสูง ส่วนใหญ่จะเป็นถังที่มีความจุไม่เกิน 3 แกลลอน ซึ่งเหมาะสมกับการใช้ในสวนขนาดเล็ก ถังพ่นยาอีกชนิดที่เรามักจะพบเห็นได้บ่อย คือ ถังพ่นยาแบบสูบโยกสะพายหลัง ที่มีลักษณะการสะพายแบบที่เราแบกเป้เลยครับ โดยเราจะทำการโยกคันโยกไฮโดรลิกด้วยมือ เพื่อให้เกิดแรงดันให้น้ำยาในถังพุ่งออกมาเป็นฝอย และพยายามรักษาระดับแรงดันด้วยความต่อเนื่องในการชักคันโยก

ข้อดีของถังพ่นยาที่กล่าวมาข้างต้นนี้ มีข้อดีคือใช้งานง่าย ดูแลรักษาง่าย แต่มีข้อเสียคือไม่เหมาะสมกับการใช้ในไร่สวนที่กว้าง และยังมีประเด็นของการตกตะกอนของสารฆ่าแมลงที่มักจะนอนก้นถัง หากเรามีเรือกสวนไร่นาที่กว้าง อาจจะต้องหันไปศึกษาเรื่องของเครื่องพ่นยาแบบที่มีเครื่องยนต์ติดตั้ง ซึ่งมีต้นทุนที่สูงกว่า แต่ก็ทำงานได้สะดวกขึ้นครับ

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook