ถั่วพู เป็นพืชตระกูลถั่วประเภทไม้เลื้อยอายุยาว ตัวฝักมีรูปทรงคล้ายสี่เหลี่ยม แต่มีปีกที่มีรอยหยักตลอดขอบสี่เหลี่ยม ความยาวของฝักประมาณ 12-30 ซม. เนื้อสัมผัสเมื่อรับประทานจะมีความกรอบ รสอร่อย นำมารับประทานสดๆ เคียงกับน้ำพริก หรือลวกเคียงกับหลนกะทิต่างๆ ก็อร่อยไม่แพ้กัน และยังมีเมนู ตำ ถั่วพู หรือ ยำถั่วพู ให้เราได้อร่อยแบบหลากรส
ถั่วพูมีฤทธิ์ช่วยให้ร่างกายในการดูดซึมแคลเซียม เพื่อนำไปใช้งานได้มากถึงร้อยละ 39-52 และยังมีไฟเบอร์สูงอีกด้วย เต็มไปด้วยแร่ธาตุ โปรตีนและวิตามิน เพิ่มความแข็งแรงของร่างกาย และยังมีฟอสฟอรัสและแคลเซียมสูง ทำให้กระดูกแข็งแรง เมล็ดนั้นก็อุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่สามารถสกัดมาทำเป็นเวชสำอางได้ด้วย
การ ปลูก ถั่วพู ให้ได้ราคาดี ต้องขออนุญาตให้ปลูกขายนอกฤดูครับ กิโลละร้อยบาทสบายๆ เลยครับ นับว่าขายได้ราคาดีขึ้นอีกเท่าตัวเลย เพียงแค่เราวางแผนเริ่มปลูกช่วงปีใหม่ไปยันมีนาคม แล้วเก็บผลผลิตในช่วง เมษายนไปถึงกรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ในตลาดมีถั่วพูน้อยมาก พอถึงช่วงหน้าฝนถึงจะเริ่มมีปริมาณเยอะครับ
การเตรียมแปลงดินก็เหมือนกับแปลงในฤดูที่เราเตรียมนั่นแหละครับ ไถดะ ไถแปร ผสมปูนขาว ปุ๋ยหมัก ให้เรียบร้อย และเตรียมเมล็ดพันธุ์ไปแช่น้ำไว้ข้ามคืน แล้วนำมาบรรจุไว้ในถุงผ้าที่เปียกชุ่ม บ่มทิ้งไว้รอเมล็ดพันธุ์แทงราก 2 คืน เมื่อแตกรากแล้วให้นำลงหยอดในแปลงปลูก 2 เมล็ดต่อหลุม เว้นระยะระหว่างหลุม 1.5 เมตร และทำค้างไม่ไผ่ให้มือของถั่วพันเลื้อยงอกงามต่อไป ขอกระซิบนะครับว่า เมล็ดพันธุ์ถั่วพูที่เรานิยมใช้คือพันธุ์ผักบุ้ง ซึ่งเป็นชื่อพันธุ์ถั่วพูพื้นบ้าน เพราะมีโอกาสงอกสูงเต็มจำนวน
พอต้นเริ่มผลิใบ เราควรให้เถาไม้เลื้อยพันเสาหลักเพื่อให้พัฒนาได้เต็มที่ ไม่เกิน 3 เดือนก็จะผลิดอกออกลูก ให้น้ำทุกวัน จนกว่าถั่วพูจะให้ผลผลิตเต็มที่ ก็สามารถเก็บผลผลิตได้แบบวันเว้นวัน ยาวไป 3 เดือนเลยครับ โดยเรามักเก็บกันตอนเช้าตรู่ เพื่อไม่ให้ฝักสีคล้ำเพราะแสงแดดครับ
การปลูกถั่วพูสามารถแบ่งเป็น การปลูกเพื่อขายฝักอ่อน เน้นขายสดๆ ในตลาด การปลูกถั่วพูเพื่อนำหัวไปขาย ไม่ใช่ฝักก็มีนะครับ เราจะขายส่วนที่เป็นรากที่สะสมอาหารใต้ดิน และอีกแบบคือปลูกเพื่อเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้การเพาะปลูกต่อๆไป เพราะปัจจุบัน เมล็ดพันธุ์ที่มีขายอยู่มีให้เลือกไม่มาก ดังนั้นเพื่อนๆ เกษตรกรจึงนิยมเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ขยายเองครับ ได้ทั้งคุณภาพและประหยัดต้นทุนเมล็ดพันธุ์ด้วยครับ
ดูแล้วน่าสนใจไม่น้อยนะครับ ปลูกและดูแล 3 เดือน เก็บเกี่ยวได้อีก 3 เดือน ต้นทุนต่ำ ดูแลไม่ยาก ขายได้ราคาดีอีกต่างหาก ลองดูกันนะครับ
