สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

ฟักทอง อาหารชั้นเลิศ สมุนไพรชั้นยอด

ฟักทอง พืชผักที่เป็นนิยมนำผล ใบ และดอกมาปรุงเป็นอาหารกันทั่วโลก ทั้งอาหารคาวและหวาน ทั้งอาหารของทางเอเชียและทางฝั่งตะวันตก เมล็ดสามารถนำมาบริโภคเป็นธัญพืช เป็นพืชสกุลเดียวกับน้ำเต้า แตงกวา แตงโม แต่กลับมีเนื้อที่ผลที่ฉ่ำน้ำน้อยกว่า ลำต้นมีขนอ่อนๆปกคลุมโดยทั่ว ใบเป็นแฉกเท่าฝ่ามือ แตกดอกเป็นดอกกะเทย ผลฟักทองมีขนาดแตกต่างกันไปตามแต่สายพันธุ์ แต่จะมีสีของเปลือกเป็นสีส้มเข้ม หรือเหลืองแกมส้ม แต่บางครั้งก็พบเป็นสีเขียวก็มีนะครับ

ฟักทองเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดมาจากซีกโลกฝั่งตะวันตก แต่ก็ได้รับความนิยมปลูกในทุกทวีป ทั้งใช้เพื่อเป็นอาหารคน ไม้ประดับ และเป็นอาหารสัตว์ มีเพียงประเทศในแถบทวีปแอนตาร์กติกเท่านั้นที่ไม่สามารถปลูกฟักทองได้ ผู้ผลิตฟักทองรายใหญ่ของโลก คือสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก อินเดีย และจีน

เนื้อผลของฟักทองอุดมไปด้วยวิตามินเอ มีเบต้าแคโรทีนซึ่งเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ มีเส้นใยไนอาซินและลูทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ เมล็ดฟักทองมีประโยชน์ต่อสุขภาพเพราะมีโปรตีน ธาตุสังกะสีและวิตามินอื่น ๆ และยังช่วยในการลดคอเลสเตอรอล และยังพบว่าโปรตีนจากเมล็ดฟักทองหนึ่งกรัมมีทริปโตเฟนมากพอ ๆ กับนมเต็มแก้วเลยนะครับ

ลองมาย้อนมองเรื่องอาหารการกินที่ทำจากฟักทองกันบ้างนะครับ เพราะฟักทองมีประโยชน์อย่างมากในการใช้ทำอาหารตั้งแต่เปลือก เนื้อผล เมล็ดไปจนถึงดอกฟักทอง เนื้อผลมีรสหวานอ่อนๆ และเมล็ดเมื่อคั่วแล้วจะมีรส “อร่อย” หอมมัน เนื้อฟักทองสามารถนำมาผัด ต้ม อบ นึ่งหรือย่างก็ได้ และยังนำมาบดเป็นอาหารสำหรับเด็กอ่อนและผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่มีปัญหาการบดเคี้ยวได้ด้วย และที่ขาดไม่ได้คือสังขยาฟักทอง ที่เป็นของหวานแสนอร่อยระดับชาววังกันเลยครับ

พอเจอสรรพคุณเพียบพร้อมอย่างนี้ ก็อดที่จะปลูกติดบ้านติดสวนไว้ไม่ได้นะครับ โดยเฉพาะฟักทองญี่ปุ่นไซส์มินิ ที่มีตลาดรอซื้ออยู่มาก ทั้งเพื่อนำไปไหว้เจ้าที่ ทั้งนำไปประกอบอาหาร  ซึ่งควรปลูกในที่สูง มีอากาศเย็นสบายหน่อยนะครับ เพราะฟักทองพันธุ์นี้ให้ผลผลิตดีในภูมิอากาศไม่เกิน 35 องศาเซลเซียส ปลูกในดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี มีธาตุอาหารสูง โดยต้องเตรียมกล้าพันธุ์ในถาดราวๆ 1 สัปดาห์เมื่อเริ่มงอกแล้วจึงย้ายไปปลูกในแปลงที่มีการปรับสภาพดิน ยกร่องเรียบร้อย แนะนำให้ปลูกตอนเย็นๆ เพื่อต้นจะได้ฟื้นตอนกลางคืนครับ

การทำค้างให้แก่ต้นฟักทองเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้เกิดการเจริญเติบโตเต็มที่และป้องกันศัตรูพืชอย่างหนูได้ ควรสร้างค้างที่สูงจากพื้นดินราว 70-100 เซนติเมตร เมื่อต้นฟักทองเริ่มโตให้เราตัดยอดออกเหลือไว้เพียง 4 ข้อเท่านั้น และเมื่อออกผลก็ให้ปลิดผลออกให้เหลือเพียงกิ่งละผล แล้วห่อด้วยกระดาษกันแมลงมาก่อกวน ภายใน 4 เดือนก็เก็บเกี่ยวผลผลิตส่งไปขายได้แล้วครับ

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook