สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

มะม่วงเขียวเสวย มะม่วงปราบเซียน

มะม่วง เป็นผลไม้ดั้งเดิมของบ้านเรา ที่คนไทยนิยมกินกันมาเนิ่นนานนับร้อยปี บางแหล่งข้อมูล บอกไว้ว่า สายพันธุ์มะม่วงไทยเท่าที่มีการบันทึกไว้ นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีอยู่ 200 กว่าสายพันธุ์ ซึ่งฟังดูแล้วก็น่าประหลาดใจ แต่ในวงการชาวสวนผลไม้ทั่วไปถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา เพราะผลไม้ที่ใช้เมล็ดในการเพาะขยายพันธุ์นั้นสามารถกลายพันธุ์ได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ทั้งเกษตรกรและนักวิชาการเกษตรเอง ต่างก็มีการทดลองผสมพันธุ์พืชข้ามสายพันธุ์กันอยู่เสมอ เพื่อค้นหาสายพันธ์พืชใหม่ๆ ให้มีคุณสมบัติดียิ่งขึ้น เมื่อได้สายพันธุ์ใหม่ก็บันทึกไว้ เมื่อทดลองปลูกแล้วมีคนนิยมก็ปลูกต่อไป ถ้าไม่นิยมพันธุ์ใหม่นั้นก็สูญไป อย่างมะม่วงที่ว่ามีเป็น 200 สายพันธุ์ เอาจริงๆ คนก็นิยมกิน นิยมปลูกกันอยู่ไม่เกิน 10 สายพันธุ์เท่านั้น ตัวอย่างเช่น มะม่วงเขียวเสวย น้ำดอกไม้ อกร่อง แก้วขมิ้น ฟ้าลั่น พิมเสนมัน โชคอนันต์ แรด เป็นต้น

ในบรรดามะม่วงนานาพันธุ์เหล่านี้ จะมีทั้งชนิดที่นิยมกินผลดิบ หรือกินผลสุก อย่างใดอย่างหนึ่งและแบบนิยมกินได้ทั้งผลดิบและผลสุกก็อร่อยทั้งคู่หรือทูอินวัน ซึ่งมะม่วงทูอินวันแบบนี้ดูแล้วคุ้มค่าที่สุดโดยมีขวัญใจมหาชนอันดับหนึ่งก็คือ มะม่วงเขียวเสวย นั่นเอง ซึ่งรสชาติของผลดิบนั้นคงไม่ต้องพูดถึงเพราะคนไทยส่วนใหญ่รู้ดีอยู่แล้วว่า กรอบ มัน ขนาดไหน ส่วนเขียวเสวยผลสุกนั้น จุดเด่นคือ เนื้อนิ่มแต่แน่น ไม่เหลวเละเหมือนมะม่วงสุกทั่วๆไป รสชาติหวาน หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อย

มะม่วงเขียวเสวย ถือเป็นมะม่วงที่มีราคาผลผลิตโดยเฉลี่ยอยู่ในเกณฑ์ดีมาโดยตลอด และโดยเฉพาะเมื่อได้มีการส่งออกไปขายยังต่างประเทศ ก็เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นทั้งจากประเทศจีน เกาหลีใต้ และเวียดนามทำให้ดูแล้วเป็นมะม่วงที่มีอนาคตค่อนข้างสดใส สำหรับเพื่อนๆ เกษตรกรที่ปลูกมะม่วงเขียวเสวยเป็นหลักอยู่แล้ว  แต่สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจ แต่ไม่เคยปลูกมะม่วงพันธุ์นี้มาก่อน จะต้องรู้ความจริงก่อนว่า เขียวเสวยเป็นมะม่วงที่ดูแลยากที่สุดสายพันธุ์หนึ่ง และมีขั้นตอนในการดูแลรักษามากมาย ถ้าขาดความรู้และประสบการณ์จริงๆ แล้ว เขียวเสวยจะติดดอกออกผลผลิตให้น้อยมาก ผู้สนใจจะต้องศึกษาเรื่องนี้ให้ดี

มะม่วงเขียวเสวย เป็นมะม่วงพันธุ์หนัก จึงมีการเจริญเติบโตช้ากว่ามะม่วงพันธุ์อื่นๆ โดยจะให้เริ่มให้ผลผลิตในปีที่ 5 นับจากเริ่มปลูก ซึ่งมักจะให้ผลผลิตแบบปีเว้นปี และยังมีปัญหาเรื่องของดอกสมบูรณ์เพศ ซึ่งเป็นดอกที่จะกลายเป็นผลมะม่วงต่อไปที่มีน้อย จึงจำเป็นต้องใช้สารเคมีฮอร์โมนคอยฉีดพ่นบำรุงตาดอกอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังมีโรคผิวแตกซึ่งพบมากในมะม่วงเขียวเสวย โดยมีสาเหตุจากเชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่บริเวณกิ่งในทรงพุ่มใบของต้นมะม่วง โดยเชื้อดังกล่าวจะเข้าทำลายผลผลิต ถ้าผิวมะม่วงเป็นแผลหรือมีรอยแตก ดังนั้นไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมมะม่วงเขียวเสวยจึงได้ราคาดี และทำไมจึงได้ชื่อว่ามะม่วงปราบเซียนนะครับ

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook