สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

ส้มโอทับทิมสยาม ส้มโอเนื้อแดงแห่งเมืองนครศรีธรรมราช

ส้มโอทับทิมสยามเป็นผลไม้ที่มีเนื้อผลหวานกรอบ อร่อย ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของคนไทยและชาวต่างชาติ จนเป็นผลไม้ที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพจากประเทศไทยและยังสามารถส่งออกไปต่างประเทศ สร้างรายได้เข้าประเทศได้เป็นจำนวนมาก ทำให้เพื่อน ๆ เกษตรกรมีรายได้อย่างเต็มที่

โดยส้มโอพันธุ์ทับทิมสยามในไทยที่มีชื่อเสียงอย่างมากนั้นก็คือส้มโอทับทิมสยาม ราบลุ่มแม่น้ำปากพนังแห่งเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นส้มโอที่มีรสชาติหวานกรอบอร่อยมากที่สุด ทั้งปลูกแล้วยังให้ลูกดกติดต้นตลอดทั้งปีอีกด้วย  ด้วยทำเลในพื้นที่นั้นมีดินที่เป็นดินร่วนปนดินเหนียวและมีแคลเซียมสูง อยู่ใกล้กับทะเล ทำให้อุดมไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ มากมาย

ส้มโอทับทิมสยามนั้นจะมีลำต้นอวบ ผิวเปลือกลำต้นขรุขระ แตกกิ่งก้านสาขาออกเป็นพุ่ม มีใบขนาดใหญ่ สีเขียวมันวาว มีขนตามใต้ท้องใบ ให้ผลดกตลอดทั้งปี ลักษณะผลเป็นสีเขียวคล้ายรูปหลอดไฟขนาดใหญ่บางผลมีสีเขียวอมเหลืองให้รสชาติหวานกรอบ เนื้อในผลเป็นสีแดงน่ารับประทาน

การปลูกส้มโอทับทิมสยามสามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยวิธีการเพาะกิ่งพันธุ์ การคัดเลือกกิ่งพันธุ์นั้จะต้องเป็นกิ่งที่ไม่แก่หรืออ่อนจนเกินไป และเป็นกิ่งที่มีอายุมากกว่า 3 ปีขึ้นไป เพราะจะให้พันธุ์ส้มโอทับทิมสยามที่ดีและแข็งแรงเหมาะแก่การปลูก นอกจากนั้นพื้นที่ในการใช้ปลูกควรเป็นดินที่มีส่วนผสมของดินเหนียวประมาณ 70% และมีค่า pH 5.2 ถึง 7.2 หากมีค่า pH ที่น้อยหรือมากกว่านี้จะต้องทำการปรับปรุงดินให้เหมาะสมก่อนครับ

จากนั้นให้ขุดหลุมโดยมีขนาดความกว้าง*ยาว*ลึก 1 เมตร เมื่อขุดเสร็จแล้วให้ตากแดดไว้เป็นเวลา 1 เดือนเพื่อกำจัดวัชพืชต่างๆ ที่อยู่ในดิน โดยการขุดหลุมเตรียมปลูกให้เว้นระยะระหว่างแถว 8 เมตรและระหว่างต้น 6 เมตร สามารถปลูกส้มโอทับทิมสยามได้ถึง 33 ต้นต่อไร่ เมื่อครบเวลา 1 เดือนแล้วให้นำดินที่ขุดขึ้นมาบนหลุมนั้นไปผสมกับปุ๋ยโดยใช้ปุ๋ยคอกเป็นจำนวน 10 กิโลกรัมและปุ๋ยหินฟอสเฟตประมาณ 500 กรัมต่อหลุมคลุกเคล้าดินให้เข้ากันให้ดีและนำกิ่งพันธุ์ที่เตรียมไว้ค่อยๆ ลงปลูกก่อนปลูกนั้นให้ใช้ดินที่ผสมปุ๋ยใส่ไว้รองก้นหลุม และให้กลบดินให้แน่นหลังนำต้นพันธุ์ปลูกลงไปในหลุมแล้วและใช้ไม้ปักโดยผูกเชือกยึดติดกับกิ่งเพื่อให้ต้นเจริญเติบโตได้ดีและแข็งแรง

วิธีการดูแลให้หาฟางข้าวหรือหญ้าแห้ง คลุมดินและรากเอาไว้และในช่วง 1-2 เดือนแรก รดน้ำให้ชุ่มชื้น หมั่นกำจัดวัชพืช และดูแลเรื่องแมลงศัตรูพืช ประมาณ 3 ปีก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตทำยอดขายได้แล้วครับ

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook