สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

หญ้าขน ปลูกได้ กำไรงาม

หญ้าขน มีชื่อฝรั่งว่า Para Grass แต่พวกเราทั่วไปจะรู้จักในชื่อว่า หญ้าขน ตามลักษณะเด่นของพืชชนิดนี้  คือเป็นหญ้าที่มีไรขนอ่อน ๆ ขึ้นอยู่ทั่วไปตามใบ และลำต้น  หญ้าขนเป็นพืชอาหารสัตว์ที่นิยมกัน ชนิดหนึ่ง เพราะ มีคุณค่าทางอาหาร อย่าง โปรตีนสูง  ซึ่งช่วยในการเจริญเติบโต ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ให้แก่สัตว์ประเภทเคี้ยวเอื้อง เช่น โค กระบือ แกะ แพะ และม้า

หญ้าขนเป็นหญ้าอายุข้ามปี มีลำต้นตั้งตรงและเลื้อยไปตามผิวดิน มีความสูง หรือเลื้อยออกไปได้ยาวถึง 3 เมตร  ลำต้นกลมมีลักษณะเป็นข้อปล้อง มีใบที่เรียวยาว และมีขนอ่อนๆปกคลุมทั่วไป เจริญเติบโตได้ในทุกๆพื้นที่ ไม่ว่าจะที่ดอนที่ลุ่ม หรือ พื้นที่น้ำขัง

สำหรับในชุมชนเมือง หากจะว่ากันตรงๆ หญ้าขน ก็คือหญ้าวัชพืช ถ้าไม่มีใครตัดไปใช้ประโยชน์อะไร หญ้าขน ก็จะสร้างความรกรุงรังเหมือนวัชพืชอื่นๆ  เกิดง่าย โตง่าย ตายยาก เพราะทนทานต่อสภาพดิน ฟ้า อากาศ ได้ดีเหลือเกิน เราจึงพบเห็น หญ้าขน ได้มากมาย ตามสถานที่ทั่ว ๆไป เช่น คลองชลประทาน รอบอ่างเก็บน้ำ รวมไปถึง พื้นที่รกร้างต่างๆ ที่มีความชุ่มชื้น หรือ มีน้ำท่วมขัง

ในชนบท ที่ทำการเกษตรหรือปศุสัตว์เป็นหลัก ถึงแม้หญ้าขนที่ขึ้นเองในธรรมชาติจะเติบโตง่าย หาง่าย พบเห็นได้ทั่วไป  แต่ถ้าใครคิดจะไปเก็บมาเลี้ยงสัตว์ของตัวเองต้องบอกเลยว่ามีไม่พอ ปริมาณยังมีน้อย เมื่อเทียบกับความต้องการ  ดังนั้น เพื่อนๆ เกษตรกร หลายคนจึงเริ่มหันมาสนใจการเพาะปลูก ขยายพันธุ์ หญ้าขน และ หญ้าเลี้ยงสัตว์พันธุ์อื่นๆ เช่น  แพนกอล่าหรือเนเปียร์

เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดย เริ่มนิยมปลูกกันในแบบที่เรียกว่า นาหญ้า คือ ปลูกกันตั้งแต่ 2 ไร่ขึ้นไป เหมือนทำนาข้าวกันเลยครับ จนเพื่อนเกษตรกรบางคน ต้องเลิกทำนาข้าวแล้วหันมาทำนาหญ้าอย่างเดียว เพราะรายได้สูงกว่า เหนื่อยน้อยกว่า เสี่ยงน้อยกว่า แล้วที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือแทบจะไม่ต้องถูกสารเคมีอีกเลย

เพื่อนเกษตรบางท่านอาจมีข้อสงสัยว่า เราจะเลือกปลูกหญ้าสายพันธุ์ไหนดี อันนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ ถ้ามีพื้นที่ไม่มาก 1- 4 ไร่ อาจเลือกปลูกหญ้าขน  เพราะผลผลิตต่อไร่สูงกว่าหญ้าชนิดอื่นมาก  และ ดูแลรักษาง่าย แต่มีข้อเสีย คือ ขายผลผลิตได้แบบ หญ้าขนตัดสดๆ เท่านั้น ไม่สามารถเก็บไปตากแห้ง อัดเป็นก้อนหญ้า เก็บรักษาได้ เหมือนหญ้าพันธุ์อื่น  แต่ถ้ามีพื้นที่มากก็อาจเลือกหญ้าพันธุ์อื่นที่ผลผลิตน้อยกว่า แต่แปรรูปเก็บไว้ได้นาน เป็นต้น

ถ้าในกรณีที่เลือกปลูกหญ้าขนในแบบนาหญ้า จะต้องใช้  ไหล หรือลำต้นที่เลื้อยไปกับดินซึ่งมีรากและแตกหน่อออกมาตามปล้อง  โดยตัดไหลให้ยาวราว 20-25 เซนติเมตรให้มีปล้อง 2-3 ปล้อง  หว่านให้ทั่วแปลงแล้วใช้วิธีไถกลบเหมือนทำนา หรือปลูกแบบปักดำข้าว

ในส่วนการเตรียมแปลงปลูก ก็ไม่ยุ่งยาก ให้เราทำการไถกลบวัชพืชก่อน  แล้วตากดินทิ้งไว้ 2 อาทิตย์ ก่อนปลูก แต่ถ้าแปลงปลูกยังมีน้ำขังจะต้องปล่อยน้ำที่ขังออกให้หมดก่อน เพราะน้ำขังอาจทำให้ไหลเน่าตาย

การปลูกหญ้าขนจะอาศัยน้ำฝน และความชื้นในดินตามธรรมชาติ แต่ในช่วงฤดูแล้งที่ไม่มีฝนตก ควรให้น้ำอาทิตย์ละครั้ง สำหรับปุ๋ยนั้นเราใส่เพื่อเพิ่มปริมาณผลผลิตต่อไร่ โดยใส่ปุ๋ยคอกอัตรา 1 ตันต่อไร่ หลังจากปลูกแล้ว 3 เดือน ให้ใส่เพิ่มอีก 1 ครั้ง และก่อนตัดในเดือนที่ 4 และหลังตัดแล้ว 2 อาทิตย์ ให้ใส่เติมลงไปอีกครับ

หลังจากปลูกเพียง 4 เดือนก็เก็บเกี่ยวได้แล้วครับ หรืออาจเก็บเกี่ยวก่อนได้ หากลำต้นสูงพอเหมาะ โดยให้ตัดสูงจากพื้นดิน 10 เซนติเมตร และ ตัดได้ในทุกๆ 40-45 วัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาพอเหมาะที่หญ้าขน จะให้คุณค่าสารอาหารสูงสุด

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook