สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

หญ้าถอดปล้อง ไม้ประดับทรงทันสมัย

หญ้าถอดปล้อง เป็นพืชที่มีลักษณะตามชื่อชัดเจน คือเป็นหญ้าที่ปล้องเป็นข้อๆ ชัดเจน ภายในลำต้นกลมเป็นปล้องๆ สีเขียวนั้นกลวง ลำต้นเป็นทรงกระบอกเล็กเรียวสูงได้ถึง 1 เมตร ใบลดรูปเป็นเยื่อบางรอบปล้อง มีตารอบกิ่งเพื่อแตกเป็นผล มีสปอร์อยู่ภายในเพื่อใช้ในการแพร่กระจายพันธุ์ เป็นพืชชั้นต่ำที่ไม่มีเมล็ด พบมากในแถบเอเชียอาคเนย์ และเอเชียตะวันออก ในประเทศญี่ปุ่นและจีนถือว่าหญ้าชนิดนี้เป็นวัชพืชทำลายนาข้าวตัวสำคัญ เพราะควบคุมยากไม่แพ้หญ้าแห้วหมูในบ้านเรา ในประเทศไทยมีหญ้าชนิดนี้มากในเขตภาคเหนือที่แหล่งน้ำในป่าลึก เช่นธารน้ำตกต่าง ๆ

แม้ว่าจะเป็นหญ้าวัชพืช แต่หญ้าถอดปล้องนั้นยังมีคุณสมบัติทางยา จนเป็นที่ยอมรับในหลายประเทศ เช่น ในสหรัฐอเมริกานั้น ได้มีการบันทึกสูตรการนำหญ้าถอดปล้องไปใช้ในการรักษาแบบพื้นบ้าน โดยใช้ลำต้นสด 100 กรัมผสมน้ำตาล 20-25 กรัมแล้วนำมาโขลกให้เข้ากัน ก่อนที่จะนำไปผสมน้ำ 250 มิลลิลิตร แล้วคั้นเอาเฉพาะน้ำด้วยการกรองในผ้าขาวยาง เพื่อให้ผู้ป่วยโรคดีซ่าน ตับอักเสบ และลำไส้อักเสบ ดื่มก่อนอาหารเช้าต่อเนื่องกัน 7-15 วัน และยังมีการนำลำต้นไปอบแห้งเพื่อนำไปใช้รักษาโรค ตาแดง ต้อเนื้อ บรรเทาอาการไข้หวัด ขับปัสสาวะ ริดสีดวงทวาร อีกด้วย

ส่วนในอินเดียมีการนำหญ้าถอดปล้องมาใช้รักษาโรคหนองในและขับระดู ในไทยเราเอง บัญชีพืชสมุนไพรตามตำราแพทย์แผนไทยก็มีหญ้าถอดปล้อง เพื่อขับปัสสาวะ ขับนิ่ว คลายเส้นคลายกล้ามเนื้อ ประคบแผลอักเสบ รักษาอาการกระดูกหัก และยังใช้สารสกัดจากหญ้าถอดปล้องมาใช้บำรุงรากผม ทำให้รากผมแข็งแรง ลดความมันบนหนังศีรษะได้ดี กลายเป็นส่วนผสมสำคัญในการรักษาหลุดร่วงของเส้นผม และเป็นส่วนประกอบในการบำรุงศีรษะสำหรับผู้ได้รับการปลูกผมกระตุ้นให้ผมแข็งแรงและดกดำ

นอกจากนี้ ด้วยรูปลักษณะที่เก๋ มีรูปทรงที่ทันสมัย และจัดเป็นพืชหายาก จึงได้มีการนำหญ้าถอดปล้องมาใช้เป็นไม้ประดับกลุ่มเดียวกับเฟิร์น ใช้ประดับบริเวณสวนน้ำ และสวนที่มีธารน้ำไหลตลอด หรือจัดวางเป็นองค์ประกอบของสวนหินให้ ทำให้บ้านเรือนอาคารมีความโมเดิร์นมากขึ้นและยังให้สีเขียวชอุ่มสบายตา และยังสามารถเป็นไม้กระถางประดับรอบอาคาร ที่มีแสงแดดส่องถึงรำไร จัดเป็นหนึ่งในหญ้าประดับกันเลยครับ

การขยายพันธุ์หญ้าถอดปล้องนั้นจะทำโดยวิธีการแยกกอหรือแยกเหง้า แล้วนำไปปลูกในดินเหนียวที่มีน้ำขังเหนือดินประมาณ  5 เซนติเมตร ในบริเวณที่มีแดดส่องแสงไม่เกิน 4 ชั่วโมง เมื่อลำต้นมีการแตกกอและเติบโตจึงนำมาแยกลงกระถางสวยงามและนำไปจำหน่ายหรือตกแต่งสวนได้ครับ

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook