สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

หญ้าหวาน

เรารู้กันดีอยู่แล้วว่า ความหวานเป็นบ่อเกิดของโรคบางชนิด เช่นเบาหวาน โรคอ้วน เป็นต้น ทำให้พวกเราต้องรีบใส่ใจและหาตัวช่วยที่จะใช้แทนน้ำตาล และหนึ่งในสมุนไพรที่ทรงคุณภาพที่ให้ความหวานยิ่งกว่าน้ำตาล แต่มีค่าพลังงานอาหารต่ำก็คือ หญ้าหวาน หรือที่ฝรั่งเรียกกันว่าสเตเวีย (Stavia)

พอได้ยินชื่อฝรั่ง เราอาจจะคิดว่า แล้วเมืองไทยเราจะปลูกได้ไหมใช่ไหมครับ  คำตอบคือปลูกได้ครับ บ้านเรานำพันธุ์เข้ามาปลูกตั้งแต่ 45 ปีที่แล้วละครับ เพราะแต่ก่อนเราต้องนำเข้าสารให้ความหวานแทนน้ำตาลจากหญ้าหวานที่ราคาแพงลิบลิ่ว เลยต้องนำพันธุ์มาปลูกเอง โดยความน่าสนใจอยู่ตรงที่ ตอนนี้ใครๆ สนใจเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ และสินค้ากลุ่มน้ำตาลจากหญ้าหวานเริ่มมีวางจำหน่ายในห้างมากขึ้น แต่การปลูกหญ้าหวานเพื่อขายยังมีน้อยมาก ทำให้เกิดโอกาสที่เหมาะในการเพาะเพื่อขายในเชิงพาณิชย์ครับ

เพื่อนเกษตรกรบางท่านถามว่า แล้วหญ้าหวาน ที่โรงงานเขารับซื้อไปทำอะไรต่อ คำตอบคือ มีเครื่องดื่มและขนมจำนวนมากที่เริ่มผลิตแบบไร้น้ำตาล หรือ No Sugar ไม่ว่าจะเป็นน้ำอัดลม น้ำผลไม้ หมากฝรั่ง รวมไปถึงขนมหวานและอาหารควบคุมน้ำหนักต่างๆ ที่พยายามเลี่ยงน้ำตาล ซึ่งอาหารกลุ่มนี้มีส่วนแบ่งการตลาดสูงขึ้นมากครับ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ตลาดมีความต้องการหญ้าหวานเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสารสกัดเพื่อนำส่งโรงงานผลิตเหล่านั้นต่อไปไงล่ะครับ

การปลูกหญ้าหวานนั้นก็ไม่แตกต่างจากสมุนไพรทั่วไปครับ เว้นแต่ว่าต้องปลูกในพื้นที่ที่อยู่เหนือระดับน้ำทะเลสูงกว่า 400 เมตร และมีอากาศเย็น โดยมีอุณหภูมิต่ำกว่า 26 องศาจึงจะเติบโตได้ดี ดินที่ใช้ต้องมีการระบายน้ำได้ดี ไม่ขังน้ำ ดังนั้นควรใช้ดินร่วนซุยปนทราย

วิธีการปลูกหญ้าหวานที่นิยมกันคือ การเพาะพันธุ์ต้นกล้าจากเมล็ด ซึ่งจะสิ้นเปลืองค่าเมล็ดพันธุ์มาก แต่มีข้อได้เปรียบในเรื่องให้ผลผลิตรวดเร็วและมีปริมาณสูง มีความทนทานต่อแมลงและโรคได้ดี สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้หลายปี ส่วนอีกวิธีที่ใช้เวลาเพาะปลูกนานกว่า คือการปักชำ ที่ได้ผลผลิตไม่มากนัก และต้นอาจติดเชื้อได้ มีข้อดีเพียงข้อเดียวคือประหยัดต้นทุน ซึ่งทำให้เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงเลือกใช้วิธีการเพาะจากเมล็ดกันมากกว่าครับ เพราะคำนึงถึงความคุ้มค่าในระยะยาวมากกว่า

ใช้เวลาปลูกเพียง 1 เดือนเราก็สามารถเก็บเกี่ยวหญ้าหวานได้เดือนละครั้งกันแล้วครับ ถ้าเป็นช่วงหน้าฝนก็ได้ผลผลิตเยอะ แต่ถ้าหน้าแล้งก็จะได้ผลผลิตลดลงมาบ้างครับ แต่ข้อดีคือ การปลูกหญ้าหวาน 1 รุ่น สามารถเก็บเกี่ยวต่อเนื่องได้ถึง 3 ปี หรือเรียกได้ว่าทำเงินได้ถึง 36 ครั้งกันเลยครับ

เพื่อนๆ ท่านใดสนใจปลูกลองไปวางแผนกันนะครับ พืชใหม่ๆ ที่ยังมีโอกาสครับ

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook