สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

องุ่นทะเล ไม้ประดับยอดนิยม

องุ่นทะเล ภาษาอังกฤษ คือ Seagrape เรียกกันตรงตัวกับภาษาไทยไม่มีอ้อมค้อม มีถิ่นกำเนิดอยู่บริเวณชายหาดอบอุ่นทั่วประเทศอเมริกา และแถบชายหาดทะเลแคริบเบียน และเกาะเบอร์มิวดา ไม้ชนิดนี้เป็นไม้ประดับยอดนิยมในทางตอนใต้ของรัฐฟลอริดา เพราะช่วยคลุมดินทรายและป้องกันชายหาดได้ดี และยังช่วยปกป้องระบบนิเวศริมหาดไม่ให้เกิดการพังทลายของเนินทรายตามเขนแนวชายฝั่ง เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ชายหาดขนาดเล็ก รวมทั้งเป็นร่มเงาให้แก่เต่า นอกจากนี้ยางไม้จากลำต้นของไม้ชนิดนี้ยังถูกใช้สำหรับย้อมและฟอกหนัง และเนื้อไม้ถูกนำมาผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์และเครื่องมือเครื่องใช้ เศษไม้ถูกนำมาใช้เป็นฟืนหรือทำถ่าน ผลขององุ่นทะเลอาจรับประทานดิบ ปรุงเป็นเยลลี่และแยม หรือหมักเป็นไวน์องุ่นทะเลได้

องุ่นทะเลเป็นไม้ยืนต้น เมื่อโตเต็มที่จะมีทรงพุ่มหนาแน่นพอสมควร พุ่มสมมาตร  มีความสูง 10-15 เมตร ลำต้นมีเปลือกไม้สีเทาปนน้ำตาล สีไม่สม่ำเสมอ ผิวสัมผัสมีตุ่มนูนเว้าปกคลุมทั่วลำต้น ใช้เป็นต้นไม้กันลมได้ แตกใบกลมสีเขียวขจี บางพันธุ์อาจจะมีใบด่าง ใบกว้าง มน ใบมีความหนาและเหนียว ขอบใบเรียบ ห่อตัวเข้าหากลางใบเล็กน้อย เมื่อเป็นยอดใบอ่อนจะแตกเป็นสีแดงและเมื่อใบแก่จะกลายเป็นสีเขียวและยังคงเส้นใบเป็นสีแดงเช่นเดิม ผลิดอกขนาดเล็กสีขาวครีม เป็นกระจุกอยู่กันเป็นช่อ ผลองุ่นทะเลจะมีลักษณะกลม ออกผลเป็นพวง ผลเมื่ออ่อนจะมีสีเขียวคล้ายองุ่นเขียว และเมื่อสุกจะกลายเป็นผลสีแดง ผลสุกจะมีรสหวานจึงกลายเป็นอาหารที่แมลงและนกทั้งหลายมักบินมาจิกกิน

พืชภูมิทัศน์ชนิดนี้เติบโตได้ดีในทำเลที่มีแสงแดดจัด ทนต่อความแห้งแล้ง เติบโตได้ในดินเค็ม มีอัตราการเติบโตปานกลาง ทำให้ไม้ต้องกังวลเรื่องการตัดแต่งกิ่งมากนัก โดยสามารถตัดแต่งกิ่งราว 2-3 ปีครั้ง การปลูกองุ่นทะเลควรปลูกในดินร่วนปนทราย ทีมีการระบายน้ำดี โดยเราสามารถขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดหรือตอนกิ่งก็ได้ แต่ส่วนใหญ่นิยมการตอนมากกว่า เพราะใช้เวลาเพียง 6 สัปดาห์ก็ออกรากแล้ว การย้ายต้นกล้าลงหลุมนั้นควรใส่ปุ๋ยคอกผสมในดินก้นหลุมก่อนนำต้นกล้าลงปลูกเพื่อบำรุงให้ต้นกล้าเติบโตเร็วขึ้น ในช่วงเพาะพันธุ์ควรหมั่นให้น้ำแก่ต้นกล้าอย่างเหมาะสม แต่เมื่อต้นไม้เติบโตแข็งแรงแล้วอาจเว้นช่วงการรดน้ำได้ โดยสังเกตจากความชื้นของผิวดิน หากเห็นว่าดินเริ่มแห้งให้เรารดน้ำบำรุงทันที แม้ว่าต้นไม้นี้จะมีความต้านทานโรคค่อนข้างสูงแต่ให้ระมัดระวังเรื่องของแมลง โดยเฉพาะมอดที่คอยเจาะกินกิ่งและใบเท่านั้น  และทีสำคัญอย่าลืมเว้นระยะห่างในการปลูกจากไม้ใหญ่อื่นๆ หรือตึกรามบ้านช่องไม่น้อยกว่า 2 เมตร เผื่อพื้นที่ให้พุ่มไม้ขยายตัวด้วยนะครับ

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook