สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

เดหลีใบกล้วย ไม้ประดับยอดนิยม ใบใหญ่ดอกงาม

เดหลีใบกล้วยหรือกวักมงคล ไม้มงคลฟอกอากาศวงศ์เดียวกับบอนที่เป็นที่นิยมของนักสะสมไม้กระถาง เพราะมีทั้งดอกเดี่ยวสีขาวสะอาดงามตา ชูช่อสง่างาม ใบสีเขียวขนาดใหญ่ ดูแลง่าย และชื่ออันเป็นมงคลตามความเชื่อว่าจะช่วยกวักความเป็นสิริมงคล ทั้งโชคลาภ เงินทอง เกียรติยศ เและสุขภาพที่ดีมาให้แก่ผู้เป็นเจ้าของไม้มงคลชนิดนี้ จนกลายเป็นไม้ประดับของขวัญที่หลายคนมักนำไปใส่ในกระถางที่ทรงคุณค่าและส่งมอบให้แก่ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ จนทำให้กลายเป็นไม้ประดับยอดนิยม ที่ร้านขายต้นไม้ประดับต้องมีไว้ติดร้าน

เดหลีใบกล้วย เป็นไม้ประดับที่มีอายุหลายปี มีถิ่นกำเนิดในประเทศเขตร้อนในทวีปอเมริกาและในเอเชียอาคเนย์ ชื่อสามัญภาษาอังกฤษเรียกว่า Peace lily ที่แปลออกมาเป็นภาษาไทยว่า ลิลลี่แห่งสันติภาพ เป็นไม้ประดับที่นอกจากมีดอกที่สวยสง่าแล้ว โดดเด่นที่ใบที่มีขนาดใหญ่กว่าเดหลีพันธุ์อื่นๆ จนเรียกขานกันว่าใบกล้วย เพราะมีขนาดใหญ่นั่นเอง เป็นพืชที่มีหัวและไหลอยู่ใต้ดิน แล้วแตกหน่อออกมาจากไหลขึ้นมาเป็นลำต้นเหนือดินและขยายเป็นกอด้วยการแตกหน่อเหนือดินต่อไปจนกลายเป็นพุ่ม ความสูงของลำต้นเหนือดินประมาณ 50-70 เซนติเมตร ใบขนาดใหญ่ที่มีความยาว20-40 เซนติเมตร เป็นทรงรี เว้าออกตรงช่วงกลางใบ ผิวใบเรียบ มันวาว ปลายใบงอนโค้งชี้ลงดิน มีดอกแทงออกมาจากบริเวณยอดเป็นช่อยาวประมาณ 25-30 เซนติเมตร ดอกมีสีครีม สามารถส่งกลิ่นหอมได้นานราว 7-10 วัน แม้จะสามารถออกดอกได้ทุกฤดู แต่จะมีดอกจำนวนมากกว่าในช่วงฤดูฝน

สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจจะปลูกเดหลีใบกล้วย ควรต้องเลือกสรรทำเลที่จะปลูกให้เป็นบริเวณที่มีแสงแดดรำไร จึงมักปลูกไว้ในบริเวณที่สามารถรับร่มเงาจากไม้ยืนต้นหรือปลูกลงกระถางตั้งไว้ภายในอาคารและบ้านเรือน ต้นเดหลีใบกล้วยชอบดินที่ชุ่มชื้นมาก แต่ไม่สามารถทนต่อน้ำขังได้ ดังนั้นควรปลูกลงในดินที่ร่วนซุยและโปร่ง ระบายอากาศได้ดี มีอินทรียวัตถุสูง หรือผสมกับปุ๋ยคอกไว้แล้ว โดยวิธีการปลูกนั้นจะไม่นิยมใช้เมล็ดเพราะหาเมล็ดได้ยาก ส่วนใหญ่จึงนิยมใช้วิธีแยกต้นอ่อนหรือหน่อมากกว่า ทั้งนี้ควรรดน้ำพอชุ่มเพื่อไม่ให้น้ำขังและหมั่นรดเสมอเพื่อให้ต้นไม้เจริญได้อย่างดี แต่ไม่ควรรดจนเกิดน้ำขัง หรือหากปลูกในกระถางควรเลือกกระถางที่ไม่ขังน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้ต้นพืชชะงักการเจริญและตายได้ การดูแลนั้นควรเติมปุ๋ยคอกในดินทุก 2 เดือนเพื่อให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์กระตุ้นการแตกหน่อขยายไปได้มากยิ่งขึ้น

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook