กระถินเป็นพืชที่มีสรรพคุณมากมาย เเละใช้ประโยชน์ได้เเทบทุกส่วน เช่น การนำใบอ่อน ยอดอ่อน ฝักอ่อน เมล็ดอ่อน มาปรุงเป็นอาหาร หรือนำมาทานสดคู่กับหลากหลายเมนู ทั้งลาบปลาและหอยนางรมสดก็เข้ากันได้ดี และยังมีสรรพคุณทางยา ที่การแพทย์พื้นบ้านนำมาใช้ประโยชน์ เพราะกระถินนั้นอุดมไปด้วยคลอโรฟิลล์ช่วยต้านอนุมูลอิสระและยังมีไฟเบอร์สูง ทำให้กระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่ายได้ดี และไม่ใช่เเค่อาหารคนเท่านั้นนะครับ เพราะใบกระถินก็เป็นหนึ่งในอาหารที่มีคุณค่าสำหรับสัตว์ด้วยเช่นกัน รวมทั้งเมล็ดสามารถใช้ประโยชน์ในการทำเครื่องประดับ และลำต้นยังสามารถใช้ประโยชน์ได้อีกมาก จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากระถินเป็นพืชที่มีประโยชน์มากมายจริงๆ ครับ
กระถิน เป็นพืชสมุนไพรขนาดกลางที่ปลูกง่าย โตเร็ว จึงมักนิยมปลูกเป็นแนวรั้ว เพื่อแสดงอาณาเขตพื้นที่ จนถูกเรียกว่า “รั้วกินได้” เป็นพืชที่โตง่าย ปลูกได้เเทบทุกที่ เเละในทุกๆฤดูกาล โดยการขยายพันธุ์เพาะในเเปลงเพาะกล้าหรือในภาชนะก่อนนำลงไปปลูกในเเปลง โดยขั้นตอนที่สำคัญที่สุดก็คือการคัดเลือกและจัดหาเมล็ดพันธุ์ ที่เราต้องใช้เมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพดี จากแหล่งที่เชื่อถือได้
วิธีการขยายพันธุ์กระถินสามารถทำได้ทั้งวิธีการเพาะเมล็ดและวิธีการปักชำ ซึ่งใช้วิธีไหนก็ได้ตามความเหมาะสมและวัตถุประสงค์ที่ทำ ซึ่งวิธีที่เราจะพูดถึงในวันนี้ก็คือการขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด เพราะเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดครับ การเพาะเมล็ดเริ่มต้นโดยนำเมล็ดลงแช่ในน้ำร้อน ให้อัตราส่วนของเมล็ดกับน้ำเป็น 1:10 โดยใช้เวลาแช่น้ำร้อนเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้นนะครับ หากแช่นานเกินแล้วจะทำให้เมล็ดงอกต้นกล้าได้ยาก แล้วเปลี่ยนไปแช่ในน้ำเย็นและทิ้งไว้ 1 คืน หลังจากนั้นก็ให้เตรียมกระบะเพาะไว้และนำดินร่วนกับดินทรายที่่ผสมแล้วใส่ลงในกระบะทราย จากนั้นก็โรยเมล็ดให้ทั่วกระบะ รอเพียงแค่ 3-8 วันกล้ากระถินก็งอกขึ้นมาครับ
หลังจากเมล็ดงอกประมาณ 15 วัน หรือสังเกตจากต้นกล้าเริ่มมีใบงอกมาบ้างแล้ว ให้เตรียมดินร่วนกับดินทรายผสมใส่ลงไปในถุงเพาะที่เตรียมไว้ โดยถุงเพาะที่แนะนำควรมีขนาด 3 x 6.5 นิ้ว รดน้ำให้ทั่วและย้ายกล้ากระถินมาปลูกลงในถุงเพาะชำที่เตรียมไว้
การดูแลต้นกล้ากระถินนั้น ในระยะแรกให้หมั่นรดน้ำและให้โดนแสงแดดเพียงเล็กน้อย และค่อยๆ ให้ต้นกล้าได้รับแสงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อใกล้เวลาจะนำต้นกล้าไปปลูกลงแปลงควรให้แสงแดดมากขึ้นกว่าเดิมก่อนลงแปลง 1 เดือนและหมั่นรดน้ำกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอด้วยนะครับ จากนั้นก็รอเวลาเก็บเกี่ยวได้เลยครับ