ดอกรักเป็นดอกไม้ที่นิยมใช้กันในงานพิธีกรรมต่างๆ มาตั้งแต่สมัยอดีตเลยก็ว่าได้ครับ โดยส่วนใหญ่จะใช้ดอกรักร้อยเป็นมาลัย รวมทั้งจัดตกแต่งประดับจานอาหาร ดอกรักจึงมีราคาสูงมากในช่วงเทศกาล ไม่ว่าจะเป็นวันพ่อ วันแม่ วันไหว้ครูหรือวันลอยกระทง โดยมีราคาสูงถึงกิโลกรัมล่ะ 100-300 บาทเลยล่ะครับ ดอกรักจึงถือได้ว่าเป็นพืชดอกชนิดหนึ่งที่น่าปลูกมาก ดอกรักนั้นมีหลากหลายชนิดซึ่งถ้าหากเป็นดอกรักที่พบเจอได้ง่ายตามธรรมชาติก็มักจะเป็นดอกรัก พันธุ์รักแก้ว มีลักษณะดอกเล็กอวบเล็กน้อยซึ่งไม่นิยมนำมาปลูกกัน ส่วนดอกรักพันธุ์ที่นิยมปลูกขายกันมากและยังมีราคาสูง เพราะให้ดอกที่สวยงามสีขาวสดใสนั้นมีชื่อว่า ดอกรัก พันธุ์จิ้งจก
ลักษณะของต้นดอกรักจะมีต้นเป็นพุ่มสูงไม่มาก ทั้งยังเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวและออกดอกสีขาวสลับกับสีม่วง มีผลเป็นฝัก เมื่อเมล็ดแก่แล้วจะมีสีน้ำตาลและมีขนสีขาวฟูรอบๆ เมล็ดเพื่อช่วยในการขยายพันธุ์โดยปลิวตามลมและไปเป็นต้นใหม่ได้ตามธรรมชาติ
วิธีการปลูกดอกรักนั้นสามารถทำได้ 2 วิธี คือ การขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด และการปักชำ แต่วิธีที่นิยมใช้ปลูกกันทั้งยังช่วยรักษาพันธุ์ดอกรักไว้คือวิธีการปักชำ โดยให้เริ่มจากการเตรียมดินไว้ให้พร้อม ดอกรักเป็นพืชที่ชอบน้ำ หากปลูกในฤดูฝนได้ก็จะดีมากเลยล่ะครับ จากนั้นให้เลือกกิ่งพันธุ์ดอกรักที่สมบูรณ์โดยเลือกกิ่งที่ไม่แก่และไม่อ่อนจนเกินไป และให้ตัดกิ่งประมาณ 30-40 เซนติเมตร จากนั้นก็นำมาปักลงดินที่เตรียมไว้โดยให้ทำมุม 45 องศาและให้ขุดหลุมเพื่อปลูกดอกรักโดยมีขนาด 30*30*30 เซนติเมตร และเว้นระยะห่างระหว่างต้นและแถว 3 เมตร เพื่อง่ายต่อการดูแลรักษาต้นดอกรักและเก็บเกี่ยวดอกรักในภายหลังได้ เมื่อปลูกเสร็จแล้วก็ให้ดูแลและรดน้ำต้นดอกรักอย่างสม่ำเสมอ เพียงแค่ 2-3 เดือนก็สามารถเก็บเกี่ยวนำดอกรักไปขายได้แล้วล่ะครับ
วิธีปลูกไม่ยากเลยใช่ไม่ล่ะครับ แต่สำหรับวิธีการเก็บเกี่ยวนั้นคงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างสูงเพราะหากผิวสัมผัสยางดอกรักแล้วก็อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองจนต้องไปพบแพทย์ได้ ทั้งยังห้ามไม่ให้ยางดอกรักเข้าดวงตาด้วยนะครับ แนะนำให้ป้องกันตัวเองให้ดีก่อนเก็บเกี่ยวดอกไปขาย เพื่อให้ดอกรักสร้างรายได้ได้ในระยะยาวอีกด้วยครับ เพียงแค่มีพื้นที่เล็กน้อยก็สามารถลองปลูกกันได้แล้วล่ะครับ รับลองเลยว่าปลูกง่ายขายได้อย่างแน่นอนครับ