สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

ขึ้นฉ่าย ปลูกแบบพืชไร้ดิน ลงทุนอุปกรณ์ครั้งเดียว เก็บเกี่ยวได้ต่อเนื่องยาวนาน

ขึ้นฉ่าย หรือที่บางคนก็นิยมเขียนหรือพิมพ์ว่า คื่นช่าย หรือ คื่นฉ่าย  ซึ่งไม่ว่าจะใช้คำไหนก็ตาม เราก็เข้าใจตรงกันว่า คือผักชนิดเดียวกันนั่นเอง แต่การใช้คำนี้อย่างเป็นทางการควรใช้คำว่า ขึ้นฉ่าย จึงจะถูกต้อง ขึ้นฉ่าย เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก อายุ1-2 ปี ลำต้นกลวง มีกลิ่นฉุนทั้งต้น ลักษณะใบหยักเป็นแฉกคล้ายกับผักชี แต่ใบใหญ่หนากว่า ส่วนกลิ่นจะฉุนต่างกันมาก มีก้านใบยาวอวบน้ำ มีระบบรากตื้นเป็นฝอย ยาวไม่เกิน 4 นิ้ว มีดอกสีขาวออกเป็นช่อเล็กๆ ส่วนผลก็มีขนาดเล็กลูกกลมรีสีน้ำตาล ติดผลครั้งเดียว โดยทั่วไปผักขึ้นฉ่ายในบ้านเราจะมีอยู่ 2 สายพันธุ์คือขึ้นฉ่ายฝรั่ง มีลำต้นอวบใหญ่ ต้นสูง 40-60 เซนติเมตร

อีกสายพันธุ์คือ ขึ้นฉ่ายจีน ซึ่งมีลำต้นที่เรียวเล็กกว่ามาก ต้นสูง 30 เซนติเมตร มีสรรพคุณคล้ายกัน แต่คนส่วนใหญ่นิยมทานขึ้นฉ่ายจีนมากกว่า ซึ่งเรามักจะทานขึ้นฉ่ายกันเหมือนกับ ทานผักชี หรือต้นหอมนั่นคือการใช้โรยหน้า หรือใช้ปรุงแต่งอาหาร เพื่อให้สี กลิ่น รส ของผัก ช่วยทำให้อาหารดูน่าทานและมีรสชาติที่อร่อยลงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่ค้าขายอาหารด้วยแล้ว จะขาดผักปรุงแต่งกลิ่นรสพวกนี้ไปไม่ได้เลย นอกจากนี้ขึ้นฉ่ายยังมีสรรพคุณสมุนไพร ช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร ช่วยในการขยายตัวของหลอดเลือด ช่วยต้านอนุมูลอิสระ เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ อีกด้วย

ที่ผ่านมา ขึ้นฉ่าย เป็นผักที่มีราคาค่อนข้างดี เพราะการปลูกขึ้นฉ่ายเชิงการค้า ถือว่ายากลำบากอยู่พอสมควร แม้จะมีแมลงศัตรูน้อย และ ใช้เวลาปลูกสั้นเพียง 60-90 วัน ก็ตาม แต่การปลูกในแปลงดินทั่วไปมีความเสี่ยงอยู่มาก เพราะผักขึ้นฉ่ายต้องการความชื้นในดินสูง ทำให้โรคระบาดประจำตัวของขึ้นฉ่าย ได้แก่ โรคใบไหม้ โรคต้นเหลืองโคนเน่า จากเชื้อรา และโรคใบจุดไหม้จากแบคทีเรีย มีโอกาสเข้าคุกคามได้ง่ายซึ่งวิธีแก้ไขจำเป็นต้องใช้สารเคมีเข้ามาจัดการ แต่เชื้อโรคพวกนี้ก็ยังมีอายุอยู่ในดินได้นานเกิน 1 ปี  ทำให้การปลูกขึ้นฉ่ายในรอบถัดไป จะต้องหาดินใหม่จากที่อื่น มาถมดินเก่าในแปลงปลูก หรือไม่ก็ต้องย้ายสถานที่ไปปลูกขึ้นฉ่ายที่อื่น หรือปลูกพืชหมุนเวียนชนิดอื่นแทนไปก่อนอย่างน้อย 1 ปี

ความจริงแล้ว ขึ้นฉ่าย เป็นผักที่ปลูกง่าย เจริญเติบโตง่าย แต่เพราะมีความอ่อนแอจากเชื้อโรคในดินทำให้การปลูกเชิงการค้าในแปลงดิน ดูแลรักษายาก ดังนั้นจึงมีเกษตรกรที่หันมาปลูกขึ้นฉ่าย แบบไม่ใช้ดินแทน เพื่อตัดปัญหาจากดินทั้งหมด โดยเปลี่ยนมาปลูกในระบบน้ำหรือไฮโดรโพนิกส์ ซึ่งต้นขึ้นฉ่ายที่ปลูกด้วยระบบนี้ก็สามารถเจริญงอกงามเป็นอย่างดี ช่วยให้เก็บเกี่ยวได้เร็วขึ้น เพียง 45-50 วัน และ ยังสามารถปลูกในรอบใหม่และเก็บเกี่ยวต่อเนื่องไปได้ตลอด แต่มีข้อด้อยคือ การลงทุนอุปกรณ์ต่างๆ ของระบบน้ำในครั้งแรกมีราคาสูง แต่คุ้มค่าในระยะยาวครับ

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook