ดอกโสน เป็นผักบ้านนา พบมากในเขตภาคกลาง และเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอีกด้วย นิยมนำมาประกอบเป็นอาหาร ให้สีสวยและมีความอร่อย เมนูยอดนิยมที่เราพบเห็นได้บ่วยในปัจจุบันคือ ดอกโสนผัดไข่ ห่อหมกปลาดอกโสน ไข่เจียวดอกโสน ยำดอกโสนทอดกรอบ หรือจะนำมาลวกจิ้มน้ำพริกก็มี นอกจากความอร่อยและอิ่มท้องแล้ว ดอกโสนยังมีฤทธิ์ทางยา เพิ่มวิตามินเอและสารต้านอนุมูลอิสระ
โสนจัดเป็นพืชตระกูลถั่วที่มีรากเป็นสารอาหาร มีเชื้อไรโซเบียมที่ช่วยในการผลิตไนโตรเจน ทำให้มีแร่ธาตุปริมาณสูงเหมาะสำหรับที่จะใช้ปลูกเป็นพืชให้แร่ธาตุแก่ดิน หรือ ใช้ปลูกไถกลบเพื่อเป็นแร่ธาตุอาหารของพืชที่จะปลูก และดอกโสนยังสามารถปลูกเพื่อบำบัดน้ำเสียได้อีกด้วยครับ ดอกโสนจะชอบขึ้นตามริมแม่น้ำลำธาร รวมทั้งคลองบึง ดอกโสนเป็นพืชที่ชอบน้ำเป็นอย่างมาก แม้จะเป็นพืชตระกูลถั่วก็ตาม
ดอกโสนในไทยที่พบมากส่วนใหญ่มักจะเป็น โสนหิน โสนอินเดีย และโสนแอฟริกัน โดยมีถิ่นกำเนิดมาจากทวีปอินเดีย และแอฟริการวมทั้งทวีปเอเชียด้วยต้นโสน มีลักษณะลำต้นตั้งตรง เป็นทรงกลม หรือ เป็นเหลี่ยมมีสีเขียวเข้ม ผิวขรุขระ ภายนอกลำต้นจะมีเปลือกห่อหุ้มอยู่ ซึ่งสามารถลอกออกได้เป็นเส้นๆ นิยมนำไปใช้เป็นที่มัดของต่างๆ ในสมัยก่อน เป็นไม้ทรงโปร่ง มีใบลักษณะขนนก ใบมีขนาดเล็กเป็นรูปวงรี ต้นโสนจะให้ดอกเป็นช่อ มีดอกสีเหลืองอร่ามลักษณะดอกคล้ายดอกกล้วยไม้ มีฝักเรียวยาวในฝักมีเมล็ดอยู่ประมาณ 10-20 เมล็ดซึ่งสามารถขยายพันธุ์ด้วยการใช้เมล็ดได้ครับ
การปลูกดอกโสน นิยมปลูกในช่วงฤดูฝนเพราะดอกโสนเป็นพืชที่ชอบน้ำเจริญเติบโตได้ดีหากปลูกในช่วงฤดูฝนครับ และมักจะปลูกด้วยวิธีการเพาะเมล็ดเพราะจะได้ต้นโสนที่แข็งแรงและทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดี โดยต้นโสนนั้นจะชอบ พื้นที่ที่มีความชื้นสูง โดยอาจจะเป็นดินที่เคยมีน้ำท่วมขัง หรือดินที่อยู่ริมอ่างน้ำ รวมทั้งแม่น้ำต่างๆ โดยเริ่มจากการเตรียมแปลงปลูก ให้ไถกลบดินเพื่อที่จะกำจัดวัชพืชตากดินไว้เป็นเวลา 10 ถึง 20 วัน แล้วจึงทำการปลูกต้นโสนได้ วิธีการปลูก สามารถโรยเมล็ดลงแปลงได้เลย หรือ ถ้าหากใครอยากจะปลูกเป็นแถวเพื่อให้สะดวกต่อการดูแลด้วยแล้ว ก็ให้ เว้นระยะห่างระหว่างหลุมประมาณ 25 * 50 cm และให้เว้นระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 100 เซนติเมตร โดยจะใช้ปริมาณเมล็ดอยู่ที่ 4-5 กิโลกรัมต่อ 1 ไร่ครับ หลังจากนั้นก็หมั่นดูแลต้นโสน ด้วยการให้น้ำหากไม่มีฝนตกในเวลานาน เมื่อดอกโสนเริ่มบานก็สามารถเก็บดอกโสนไปใช้ประโยชน์ได้แล้วล่ะครับ
