เกษตรพอเพียง คือการทำเกษตรกรรมโดยน้อมนำเอาพระราชดำริ ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่ได้พระราชทานเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงเอาไว้ เพื่อให้ประชาชนก้าวทีละก้าว เริ่มจากพอเพียงแล้วจึงขยายผลต่อไป โดยการใช้ชีวิตแบบพออยู่พอกิน และระมัดระวังไม่ให้เกิดผลเสียหายแก่ผู้อื่น ด้วยการใช้ความรู้ผนวกเข้ากับคุณธรรม ซึ่งแนวพระราชดำรินี้ ทำห้ประชาชนคนไทยน้อมนำมาเป็นแนวทางในการใช้ชีวิต
ในแง่ของการเกษตร เราจึงได้น้อมนำมาปฏิบัติในการทำงานและยังชีพ ด้วยการเริ่มต้นทำการเกษตรโดยพึ่งพาตัวเองเป็นหลัก ใช้ทรัพยากรรอบตัวที่มีอยู่ของเราเอง เพื่อผลิตสินค้าเกษตรและจัดจำหน่ายจนสร้างรายไดเพื่อเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ แล้วจึงเผื่อแผ่ไปยังชุมชน เมื่อชุมชนมีมากพอก็เผื่อเผ่ได้กว้างขึ้น เป็นการสร้างจากภายในแล้วจึงแบ่งปันแจกจ่ายแลกเปลี่ยนสู่วงกว้างต่อไป
เกษตรพอเพียงเป็นหลักการพื้นฐานแห่งการแบ่งปัน ไม่ใช่กอบโกย จะเห็นได้จากตัวอย่างเกษตรกรที่ทำการเกษตรพอเพียง สามารถทำอาชีพเกษตรอย่างมีความสุข เพราะลดความโลภ ทำให้การปลูกพืชผักหรือการเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจต่างๆ จะเริ่มด้วยการใช้ระบบอินทรีย์ เพราะสารถหาได้ง่ายจากธรรมชาติ การใช้ระบบนิเวศวิทยา เข้ามาช่วยในการกำจัดศัตรูพืช ทำให้เกิดผลดีในแง่ของสุขภาพของผู้บริโภคตามมา
จะเห็นได้ว่าการพึ่งพาตัวเองและมีความพอเพียงนั้น เกิดจากจิตใจที่ต้องการผลิตผลทางการเกษตรเพื่อไว้กินไว้ใช้ในครอบครัว จึงเน้นเรื่องคุณภาพ อย่างที่เขาว่า เราจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้คนที่เรารัก และเมื่อมีเหลือจึงเผื่อแผ่และนำไปขาย เพื่อนำรายได้มาใช้จ่ายในครัวเรือน ดังนั้นแนวคิดนี้จึงเป็นแนวคิดในการสร้างสิ่งดีๆ ออกสู่สังคมไปด้วย
การเริ่มต้นทำเกษตรพอเพียงไม่มีอะไรต้องคิดมากนะครับ เพียงแค่เริ่มจากสิ่งที่มีอยู่ ใครมีพื้นที่น้อย ก็ปลูกเท่าที่เรามีที่ทาง คือเริ่มต้นจากทำเอง กินเอง ใช้เองครับ ลดการซื้อ ถ้าสามารถปลูกเอง เลี้ยงเองได้ เรียนรู้กันไปครับ ทำจากเล็กๆ และค่อยขยายปลูกเพิ่มขึ้น จากปลูกพืช 1 ชนิด ขยายเป็น 2-3-4 ตามลำดับ พอเริ่มขายได้เงินเหลือเก็บ ก็นำมาขยับขยายไปเรื่อยๆ จนสามารถขยายที่ทาง และปรับไปสู่การทำการ เกษตรทฤษฎีใหม่ ซึ่งทาง Blog เราได้เขียนเรื่องนี้ไว้แล้วครับ เพื่อนๆลองกลับไปอ่านกันดูนะครับ
สิ่งหนึ่งที่เพื่อนๆ เกษตรกรจะได้เรียนรู้จากการทำเกษตรพอเพียงไม่ใช่แค่การเกษตรครับ สิ่งที่เราได้คือความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบตัว ตั้งแต่ครอบครัว ไปถึงชุมชน เมื่อเราทุกคนพึ่งพาตัวเองได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องปากท้อง เราก็สามารถจะมีน้ำใจหยิบยื่นพืชผลที่ดีให้แก่คนอื่นๆ ต่อไป และผมเชื่อว่าสังคมเกษตรกรรมของเราจะเป็นที่พึ่งสำคัญของคนทั่วโลกได้ ด้วยปรัชญาเช่นนี้เลยครับ