ไม้กฤษณา หรือไม้หอม เป็นไม้ทรงคุณค่าที่มีมาแต่โบราณ เป็นไม้ที่มีราคาแพง จนถูกขนานนามว่าเป็นไม้ของพระเจ้า โดยมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่นอีกด้วยครับ ในจังหวัดบุริรัมย์นั้นจะเรียกว่าสีเสียดน้ำ จันทบุรีจะเรียกว่าตะเกราน้ำ ในภาคตะวันออกและภาคใต้จะเรียกว่า ไม้หอมหรือไม้พวงมะพร้าว ส่วนชาวปัตตานี มาเลเซียนั้นเรียกว่ากายูการู กายูกาฮู กายูดึงปู ส่วนในภาษากะเหรี่ยงจะถูกเรียกว่าเซงเคง และกะเหรี่ยงในแม่ฮ่องสอนนั้นเรียกต่างไปว่า ชควอเซ ชควอสะ คนเมืองจะเรียกว่า ปอห้า ในภาษาบาลี เรียกว่า อครุ ตคร และในจีนจะเรียกว่า ติ่มเฮียง ซึ่งมีความหมายแปลว่าไม้หอมที่จมน้ำครับ
โดยไม้กฤษณาลักษณะต้นของเขานั้นเป็นไม้ยืนต้นที่มีขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ การกระจายพันธุ์ตามธรรมชาตินั้น จะกระจายไปในแถบเอเชียเขตร้อน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไปจนถึงฟิลิปปินส์ เอเชียใต้แถบประเทศอินเดีย ปากีสถาน ศรีลังกา ภูฐาน เบงกอล รัฐอัสสัม รวมทั้งกระจายไปถึงเอเชียเหนือประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน มีคุณสมบัติเป็นสมุนไพรรักษาบรรเทาโรค ถูกนำมาใช้ประกอบทางยาในทางการแพทย์ แถบทวีปเอเชีย และยังสามารถใช้ในการป้องกันเหา เห็บ และแมลงได้อีกด้วยครับ
ไม้กฤษณานั้นเป็นไม้ที่ตลาดโลกต้องการเป็นอย่างมาก จึงเป็นต้นเหตุที่ทำให้ไม้ชนิดนี้โดนตัดจนเกือบสูญพันธุ์ไป ซึ่งลักษณะของต้นนั้นมีความสูงประมาณ 18 – 30 เมตร วัดขนาดรอบลำต้นยาวประมาณ 1.5 – 1.8 เมตร ลักษณะต้นจะเป็นทรงพุ่มเจดีย์ต่ำ หรือเป็นรูปกรวย ลำต้นตรง และโดยปกติเนื้อไม้จะมีสีขาว แต่เมื่อเกิดบาดแผล ต้นไม้ก็จะหลั่งน้ำมันสีดำออกมา ในบางที่เขาเรียกว่า ‘เกิดกฤษณา’ ครับ ซึ่งจะส่งผลทำให้เกิดเป็นไม้สีดำ มีกลิ่นหอม โดยการขยายพันธุ์ของชาวบ้านนั้นทั่วไปจะใช้วิธีการเพาะเมล็ดครับ โดยเมล็ดนั้นจะนำมาจากดอกในช่วงผลัดใบของไม้กฤษณา ช่วงหลังปีใหม่ ประมาณเดือนมีนาคม ไปจนถึงเมษายน ดอกนั้นจะมี 2 ชุด แบ่งเป็นชุดเล็กและใหญ่ แต่ในบางครั้งก็มีเพียง 1 ชุดเท่านั้น
โดยผลเมล็ดจะแก่ในเดือนพฤษภาคม ไปจนถึงมิถุนายน จึงจะค่อยๆ ร่วงหล่น ลักษณะสีของเมล็ดจะเป็นสีเขียวและสีน้ำตาลแตกออกในเมล็ดที่แก่มากๆ นำเอาไปเพาะต่อได้ ในพื้นที่ที่เหมาะสม ดินนั้นควรมีสภาพชุ่มชื้น ไม่ควรจะเป็นพื้นที่ที่ดินแห้งจนเกินไป เช่น ดินทราย ดินดาน ดินลูกรัง ในการปลูกนั้นควรมีระยะห่างระหว่างต้น 3.3 ตารางเมตร เมื่อปลูกให้เจริญเติบโตได้แล้วสิ่งที่ควรทำทุก 5 ปี คือ การวัดขนาดเส้นรอบวงควรจะได้ 50 เซนติเมตร โดยจะต้องวัดจากความสูงพื้นดิน 1 เมตรครับ
