โดยหากหนอนม้วนใบกัดกินน้ำเลี้ยงของต้นกล้าของพืชจะส่งผลให้ต้นกล้าตายได้ แต่หากไปกัดกินน้ำเลี้ยงใบของพืชผักที่เจริญเติบโตเต็มวัยก็จะทำให้พืชผักดังกล่าวให้ผลผลิตน้อยลง ทั้งยังอาจทำให้พืชผักที่ปลูกหยุดการเจริญเติบโตได้
หนอนม้วนใบนั้นคือหนอนผีเสื้อหลายชนิด แต่โยทั่วไปแล้วจะเกิดจากผีเสื้อ 3 ชนิด โดยชนิดแรกคือผีเสื้อที่มีลำตัวสีน้ำตาลปนดำ โดยจะมีสีดำหรือสีน้ำตาลเข้มเป็นแถบพาดบริเวณลำตัว จะออกไข่บริเวณผิวใบพืช ผีเสื้อชนิดนี้สามารถออกไข่ได้ถึงครั้งละ 300 ฟอง ไข่จะมีลักษณะรี สีขาวใสก่อนจะกลายเป็นสีขาวนวลเมื่อใกล้ฟัก เมื่อไข่ฟักออกมาเป็นหนอนตัวอ่อนจะมีสีเขียวอ่อนและมีจุดสีดำ เมื่อเข้าสู่ระยะหนอนเต็มวัยก็จะมีสีเขียวเข้มขึ้น หากเป็นผีเสื้ออีกชนิดจะมีขนาดเล็กลำตัวมีสีน้ำตาล ออกไข่ครั้งละ 400 ฟอง ตัวอ่อนเป็นหนอนสีเขียวอ่อน และผีเสื้อชนิดสุดท้าย จะมีลักษณะคล้ายกับชนิดแรกแต่จะออกไข่เป็นกลุ่มมีสีขาวและมีตัวอ่อนเป็นสีเขียวอ่อน
การแพร่ระบาดของหนอนม้วนใบนั้นเกิดจากการวางไข่ของผีเสื้อ และเมื่อไข่ฟักก็จะออกตัวอ่อนเป็นหนอนอาศัยดูดกินน้ำเลี้ยงบนใบพืช โดยการชักใยบางๆ สีขาว เมื่อใบพืชเหี่ยวแห้งลงก็จะเปลี่ยนไปดูดกินน้ำเลี้ยงของพืชใบอื่นต่อไป จนเข้าระยะดักแด้จึงจะทำการชักใยใบสีขาวดึงใบพืชให้ม้วนลงมาห่อหุ้มตัว เมื่อกลายเป็นผีเสื้อก็จะกัดใบดังกล่าวออกมาสู่โลกภายนอก ส่งผลให้ต้นพืชเหี่ยวเฉาและตายลงได้
วิธีป้องกันการระบาดของหนอนม้วนใบด้วยวิธีแบบธรรมชาติโดยไม่ต้องพึ่งพาสารเคมีสังเคราะห์ราคาแพงต่างๆ สามารถทำได้ง่ายๆ โดยการเว้นระยะห่างระหว่างต้นพืชที่ปลูก เพื่อป้องกันการแพร่กระจายโรคจากต้นหนึ่งไปสู่อีกต้นหนึ่ง และทำการตัดแต่งพุ่มใบให้เหมาะสมเสมอ