สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

กุ้งก้ามกราม กุ้งน้ำจืดพันธุ์ยอดนิยม

กุ้งก้ามกราม คือ กุ้งน้ำจืดพันธุ์ยอดนิยมของไทย แต่ก่อนเราจะได้ยินเขาเรียกกันว่า กุ้งนาง หรือกุ้งกล้ามเกลี้ยง แต่ด้วยความที่มีการพัฒนาพันธุ์จนก้ามกุ้งแน่นและใหญ่ จึงกลายเป็นกุ้งก้ามกรามในปัจจุบันนี้ ในตลาดมีความต้องการซื้อกุ้งชนิดนี้สูง เพราะเป็นเมนูสัตว์น้ำที่คนไทยนิยมมากในทุกภาค และก็ยังสามารถเพาะเลี้ยงได้ในทุกภาคอีกด้วย ทำให้เกิดข้อได้เปรียบในเรื่องของต้นทุนการขนส่งที่ไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับกุ้งทะเล

วันนี้เราจะมาเล่าภาพกว้างๆ ของการเลี้ยงกุ้งก้ามกรามกันครับ ข้อควรระวังในการเลี้ยงกุ้งพันธุ์นี้คือ ก่อนทำการเลี้ยงต้องตรวจสอบสภาพดินที่เราจะทำบ่อเลี้ยงกันก่อน หากที่ดินที่เพื่อนๆ เกษตรกรมีกันอยู่เป็นดินเปรี้ยว หรือว่ามีค่าความเป็นกรดสูง จะไม่สามารถเลี้ยงกุ้งก้ามกรามได้ เพราะจะทำให้น้ำในบ่อมีค่าเป็นกรดตามไปด้วย ทำให้กุ้งไม่ได้คุณภาพ ตัวเล็ก ขายไม่ได้ราคา

การเพาะเลี้ยงกุ้ง เราควรเลือกทำเลที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำธรรมชาติที่ห่างไกลจากแหล่งน้ำเสียโรงงาน และแหล่งน้ำเสียชุมชน เพื่อป้องกันโอกาสในการปนเปื้อนของมลภาวะ ที่มีผลต่อการเลี้ยงสัตว์ของเรา ยิ่งอยู่ใกล้แหล่งชลประทานมากเท่าไรก็ยิ่งดี เพราะไม่ต้องกังวลกับการสูบน้ำเข้าบ่อ และต้องอยู่ไม่ห่างจากแหล่งพ่อแม่พันธุ์ เพื่อลดความบอบช้ำในการเดินทางของลูกกุ้ง ดังนั้นเรื่องที่ดินและทำเลจึงเป็นเรื่องสำคัญเป็นอันดับแรกครับ

บ่อเลี้ยงกุ้งควรแบ่งเป็นบ่อละ 1 ไร่ ไม่เกิน 5 ไร่ เพื่อจะได้บริหารจัดการได้ง่าย โดยส่วนใหญ่จะเลือกที่ 1 ไร่ เพราะง่ายต่อการควบคุม มีความลึกประมาณ 1 เมตรเพื่อให้แสงแดดส่องไม่โดนก้นบ่อ ป้องกันการเกิดตะไคร้ทำให้น้ำเน่าได้ พื้นบ่อต้องเป็นดินที่อัดแน่น คันบ่อต้องทำเป็นคันแบบลาดชันสูงพอประมาณ

การวางระบบน้ำก็ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญในการเลี้ยงกุ้งก้ามกราม เพราะต้องให้ท่อระบายน้ำ อยู่ในตำแหน่งที่ระบายของเสียได้ดี ป้องกันการเน่าเสียของน้ำในบ่อ การวางท่อน้ำเข้าและท่อน้ำออกต้องดูทิศทางให้เมาะสม เพื่อเป็นการไล่ของเสียและการสร้างออกซิเจนในบ่อด้วย

แล้วยังมีเรื่องของการตรวจสอบสารปนเปื้อนในน้ำก่อนปล่อยน้ำลงบ่อ ซึ่งเรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าที่ดินแปลงที่เรานำมาทำบ่อเคยเป็นพื้นที่นาหรือสวนไร่หรือไม่ครับ ถ้าเคยเป็นนาหรือสวน ก็คงต้องเจาะรายละเอียดกันเยอะ ว่ามีกลุ่มยาฆ่าแมลงอะไรปนเปื้อนอยู่หรือไม่

ส่วนการเลือกพ่อ-แม่พันธุ์ก็เน้นตัวที่แข็งแรง มีขนาดไล่ๆ กัน ไม่แตกต่างกันมากนัก เปลือกใส ว่ายน้ำเก่ง และต้องมีอายุมากกว่า 3 สัปดาห์ เพื่อจะได้ลำเลียงจากบ่อที่เราซื้อพันธุ์มาที่บ่อเราได้

การเลี้ยงกุ้งก้ามกราม แม้จะมีขั้นตอนที่เยอะ แต่หากดราใส่ใจทุกรายละเอียด ผลกำไรก็มหาศาลครับ

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook