วิธีปลูกดอกบัวซึ่งเป็นดอกไม้ที่คนไทยเรานิยมนำมาใช้ในเรื่องราวต่างๆ ที่ผูกพันกับพุทธศาสนา ทั้งใช้สำหรับบูชาพระและใช้ในการประกอบพิธีต่างๆ ที่มีตลาดรองรับค่อนข้างกว้างนั้น หากจะปลูกเพื่อใช้เป็นไม้ปะดับภายในบ้านจะมีวิธีการปลูกที่ไม่ซับซ้อนนัก เมื่อเทียบกับการปลูกในเชิงพาณิชย์ เพราะการปลูกเพื่อการค้าต้องเน้นเรื่องของปริมาณผลผลิตและคุณภาพมากเป็นพิเศษและยังต้องคำนึงถึงเรื่องวิธีการเก็บเกี่ยวในแต่ละส่วนของต้นบัวที่เราจะนำไปจัดจำหน่าย เช่น บัวตัดดอก สายบัวหรือไหลบัวและฝักบัว เป็นต้น
วิธีปลูกบัวเพื่อตัดดอกหรือทำนาบัวนั้น ควรทำการปลูกในทำเลที่เป็นที่ราบ ที่ดินมีความสม่ำเสมอ เนื้อดินเป็นดินเหนียว ใกล้แหล่งน้ำ จัดเตรียมแปลงปลูกเหมือนการทำนาดำ พื้นที่เพาะปลูกประมาณ 5 ไร่เป็นอย่างน้อย หากต้องการทำนาบัวขนาดใหญ่ควรมีพื้นที่ตั้งแต่ 50 ไร่ขึ้นไป โดยทำคันดินสูง 1.5 เมตรทุกด้าน กำจัดวัชพืช ไถดะเปิดหน้าขึ้นมาตากแดดฆ่าเชื้อประมาณ 1-2 สัปดาห์ แล้วจึงไถแปร เติมปุ๋ยคอกแห้งประมาณ 200 กิโลกรัมต่อไร่ แล้วจึงปล่อยน้ำเข้าแปลงในระดับความสูง 15 เซนติเมตร หมักน้ำไว้ในแปลง 5 วัน และทำการนำไหลบัวมาปักดำในนา เว้นระยะห่าง 2*2 เมตร การปลูกสามารถทำได้โดยการใช้ไม้คีบที่เราเรียกว่าตะเกียบ ซึ่งทำมาจากไม้ไผ่ทีเหลาบางๆ แล้วคีบไหลบัวเพื่อดำลงในดินให้ไหลยึดบนผิวดินไว้ หรือจะทำโดยการใช้ดินหมก ซึ่งวิธีนี้ จะต้องทำการระบายน้ำออกจากแปลงให้หมด และขุดร่องดินประมาณ 4-6 เซนติเมตรแล้ววางไหลบัวลงในร่อง ก่อนที่จะกลบดินทับเว้นไว้แต่ส่วนของเตา แล้วปล่อยน้ำเข้ามาในแปลงอีกครั้ง
เมื่อทำการปลูกบัวตามวิธีข้างต้นแล้ว ก็ต้องดูแลเรื่องการให้น้ำ โดยต้องให้มีน้ำในนาราว 30 เซนติเมตรเสมอ เพื่อให้บัวสามารถรับแสงแดดได้ดีเมื่อเจริญพ้นน้ำได้ และยังป้องกันไม่ให้เกิดวัชพืชในนาด้วย เมื่อบัวสูงพ้นน้ำให้เติมน้ำเข้าไปในนาให้มีระดับราว 50-80 เซนติเมตร เพื่อให้บัวเติบโตและให้ดอกได้มาก ใช้เวลาประมาณ 3 เดือนดอกบัวจะเริ่มผลิดอกตูมให้เราสามารถเก็บเกี่ยวได้วันเว้นวันในฤดูร้อนและฝน ส่วนฤดูหนาวให้เก็บแบบวันเว้น 2 วันเพราะผลผลิตอาจมีไม่มากนัก การตัดดอกบัวนั้นให้ตัดไว้ก้านดอกให้มีความยาว 50 เซนติเมตร มัดเป็นกำแล้วห่อด้วยใบบัวอีกครั้ง ก่อนนำส่งขายต่อไป ส่วนบัวที่เราจะปลูกขายเป็นฝักนั้นมีวิธีปลูกไม่แตกต่างกันกับการปลูกเพื่อตัดดอก แต่จะรอจนกว่าได้ฝักบัวจึงจะเก็บเกี่ยวได้