เมล่อนคือผลไม้ประเภทแตงชนิดหนึ่ง มีลวดลายบนพื้นผิวคล้ายตาข่ายแห ลายเส้นจะนูนขึ้นมาจากผิวเปลือกอย่างชัดเจน มีรสชาติหวาน กรอบ สีของเนื้อเมล่อนมีสีส้มหรือเหลือง ตามชนิดพันธุ์ มีทั้งตาข่ายส้ม ตาข่ายเขียว กาเลีย ฯลฯ ผลไม้ชนิดนี้เลือกปลูกกันได้ตามใจชอบกันเลยนะครับ เพื่อนๆ เกษตรมือใหม่ในกรุงเทพหลายท่านที่เพิ่งทดลองปลูกมักจะปลูกบนระเบียงบ้าง บนดาดฟ้าบ้างครับ เพราะปลูกได้ง่ายๆ ไม่ยากเลย แต่ถ้าปลูกแบบมืออาชีพกันจริงๆ คงต้องมีเรื่องของโรงเรือนเข้ามาอีกเรื่องครับ เพื่อให้ได้แตงที่มีคุณภาพ แต่ปลูกนอกโรงเรือนก็ได้ แต่ช่วงหน้าฝนอาจจะเจอกับภาวะต้นล้มบ้าง แต่ก็ไม่ต้องกังวลครับ เพราะเดี๋ยวก็ฟื้น ค่อยๆ ดูแลไปตามขั้นตอนครับ
ว่ากันว่าการทานเมล่อนนั้น ช่วยรักษาระดับความดันในเลือด ซึ่งเป็นผลทำให้ลดความเสี่ยงของภาวะเส้นเลือดในสมองตีบหรือเส้นเลือดหัวใจตีบตันได้ เพราะเนื้อของผลไม้ชนิดนี้มีโปแตสเซียมสูงและมีโซเดียมต่ำนั่นเองครับ และด้วยผลไม้ตัวนี้มีสารออกฤทธิ์ที่ช่วยเสริมสร้างมวลกระดูก และยังช่วยชะลอความเหี่ยวย่นของผิวพรรณเลยทำให้สาวๆ ทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ สนใจซื้อหามารับประทานกันอย่างกว้างขวาง เพราะทั้งอร่อยและมีสรรพคุณครอบคลุมหลายด้านนั่นเอง
การปลูกเมล่อนนั้นหากทำแบบมือสมัครเล่น ไม่ได้ประกอบ อาชีพเกษตรกร ก็คงไม่มีอะไรต้องวางแผนมากนัก แต่หากเพื่อนๆ ต้องการทำเป็นธุรกิจแล้ว เราจำเป็นต้องมีการวางแผนพอสมควรนะครับ ทั้งเรื่องของการเตรียมแปลงปลูก การขยายพันธุ์ การบำรุงธาตุในดิน รวมทั้งสารบำรุงต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะแนะนำให้ปลูกพันธุ์ Pot พันธุ์ Green net และ shizuoka เพื่อนำส่งออก เพราะเป็นพันธุ์ที่มีรูปลักษณะโดดเด่น ลายแหสวย รสหวานฉ่ำ และหลังจากให้ผลผลิตแล้วสามารถเก็บเกี่ยวต่อเนื่องได้อีกหลายปี
โดยปกติแล้วคุณภาพของเมล่อนนั้น จะถูกวัดด้วยลายแหบนผิวเปลือกและค่าความหวานจากเครื่องตรวจสอบ รวมทั้งน้ำหนักของเมล่อนด้วย โดยแบ่งออกเป็นเกรดพรีเมี่ยม ที่ผลิตออกมาเพื่อส่งออกและส่งห้างดังๆ ต้องมีค่าความหวานไม่น้อยกว่า 14 บริกซ์ ลายแหมากกว่าครึ่งหนึ่งของผิว และน้ำหนักผลละ 1.5-2.5 กิโลกรัม ถ้าเราสามารถควบคุมให้ผลผลิตออกมาได้ตามเกรดนี้ รับรองมีลูกค้าประจำรอซื้อได้ราคาดีกันเลยครับ โดยเฉพาะลูกค้าชาวอาหรับ ที่มีกำลังซื้อสูงลิ่วและมีควาวต้องการซื้อเมล่อนเยอะมากครับ
ส่วนเกรดที่คุณภาพไม่ได้ตามเกณฑ์ก็จะถูกนำออกไปจำหน่ายให้แก่ร้านผลไม้ทั่วๆ ไป ที่เราเห็นในตลาดต่างๆ ครับ ราคาก็ลดหลั่นไปตามคุณภาพครับ แต่ก็ยังสร้างโอกาสในการขายได้อยู่ หรืออาจะนำส่งร้านอาหารและโรงแรมได้ด้วยนะครับ เพราะเมล่อนนับว่าเป็นผลไม้เกรดพรีเมี่ยมในตัวอยู่แล้ว
เพื่อน ๆ เกษตรกรยุค เกษตร 4.0 ท่านใดเห็นช่องทางไหน ก็แนะนำกันมาได้นะครับ สวัสดีครับ
