สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

ต้นชิงชัน เนื้อไม้คงทน แข็งแรง

ต้นชิงชัน มีชื่อเรียกกันหลายชื่อ เช่น ประดู่ชิงชัน มีชื่อสามัญว่า Burma rosewood และ Tamalan  เป็นพืชในวงศ์ไม้ชิงชัน ซึ่งพบในประเทศไทยกว่า 30 ชนิด และมี 3 ชนิดที่ถูกจัดเป็นไม้หวงห้ามได้แก่ ชิงชัน พะยูง และกระพี้เขา โดยพืชชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศเมียนม่าร์ ประเทศลาว และประเทศไทย ก่อนที่จะกระจายพันธุ์ไปยังประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย พบได้ทั่วไปในป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณที่แห้งแล้ง เป็นพืชยืนต้นที่มีเนื้อไม้งดงาม สีเนื้อไม้เข้มเป็นเอกลักษณ์ เนื้อไม้คงทน แข็งแรง เมื่อขัดเงาแล้วจะมีความเรียบเนียนสวยงาม จึงเป็นที่นิยมในการนำมาใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์ทั้งขนาดเล็กขนาดใหญ่ และยังนิยมนำไม้ทั้งต้นมาทำเป็นเสาเรือนอีกด้วย

ต้นชิงชันเป็นต้นไม้ที่มีลำต้นเปลา ขนาดปานกลางถึงใหญ่ มีความสูงระหว่าง 15-25 เมตร เปลือกของลำต้นสีเทาเข้มอมน้ำตาล มีรอยแตกขรุขระตลอดทั้งลำต้น ด้านในเปลือกไม้มีสีเหลือง เนื้อไม้มีสีน้ำตาลอ่อนแกมสีเนื้อ แก่นไม้สีน้ำตาลแดงมีลวดลายเป็นเส้นแนวตั้งสีดำแทรกตามเนื้อไม้ แตกใบเป็นช่อประกอบด้วยด้วยใบย่อย 10-17 ใบ ใบอ่อนจะมีสีเขียวอมแดง เมื่อต้นไม้แก่ขึ้นใบจะเริ่มขยายใหญ่ขึ้นตามลำดับ โคนใบมนและปลายใบมีลักษณะกลมและหยักบ้าง โดยสีของผิวใบจะเข้มกว่าท้องใบเล็กน้อย ผลิดอกเป็นช่อสีขาวแกมม่วงบริเวณปลายกิ่ง ก่อนที่จะแตกผลออกมาเป็นฝักแบน ยาว รี ด้านในฝักมีเมล็ดเดี่ยวเป็นส่วนใหญ่ แต่อาจจะพบ 2-3 เมล็ดบ้างในบางกรณี จัดว่าเป็นพืชที่มีระบบรากแก้วที่ยาวมาก

สภาพภูมิอากาศที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของต้นชิงชัน คือ อุณหภูมิสูงสุดไม่เกิน 40-43 องศาเซลเซียสและต่ำสุดไม่เกิน 5-7 องศาเซลเซียส และควรมีประมาณน้ำฝนประมาณ 900-2,000 มิลลิเมตร เพราะในช่วงที่เริ่มขยายพันธุ์นั้นจะต้องใช้น้ำในปริมาณไม่น้อย สามารถเพาะปลูกได้ด้วยการเพาะเมล็ด ต่อกิ่ง และตอนกิ่ง สำหรับกาเพาะด้วยเมล็ดนั้นให้เริ่มจากการเก็บเมล็ดจากฝักที่แก่แห้ง จนเมล็ดด้านในมีสีน้ำตาลเข้ม และนำเมล็ดไปตากให้แห้ง และทำการตัดปีกเมล็ดออกเหลือไว้เฉพาะส่วนของเมล็ดเท่านั้น แล้วจึงนำเมล็ดไปแช่ในน้ำร้อนและปล่อยทิ้งไว้จนน้ำเย็นลง ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง ก่อนที่จะนำลงเพาะในดินร่วนปนทราย และกลบทับเมล็ดบางๆ หลังจากเพาะเมล็ดแล้วราว 14-17 วัน ก็สามารถย้ายชำและนำไปวางใต้ร่มเงาไม้อื่นๆ และรดน้ำทุกวัน อย่างน้อย 2 เวลา แต่หากเป็นช่วงแล้งควรเพิ่มรอบการให้น้ำ เมื่อต้นกล้าชิงชันเริ่มสมบูรณ์ ตั้งต้น จึงลดความถี่และปริมาณการรดน้ำลงได้ เมื่อต้นไม้มีอายุครบ 6 เดือนขึ้นไป และมีความสูงราว 40 เซนติเมตร จึงย้ายลงปลูกได้ อย่างไรก็ตาม ควรปลูกต้นชิงชันร่วมกับพืชชนิดอื่น เพราะเป็นไม้ที่เติบโตช้ามากนั่นเองครับ

 

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook