ไก่งวง เป็นหนึ่งในสัตว์เพื่อการค้าที่มีโอกาสทางการตลาดสูง เพราะนอกจากจะเลี้ยงไว้เพื่อขายเนื้อไก่แล้ว ยังสามารถเลี้ยงเพื่อเพาะพันธุ์ลูกไก่งวงขายให้แก่เพื่อนเกษตรกรด้วยกันครับ ข้อดีของการเลี้ยงไก่งวงคือมีขนาดตัวที่ใหญ่ ทำให้มีน้ำหนักเยอะ ขายได้ราคาดี ตัวที่โตเต็มที่สามารถขายได้ในราคาหลักพันบาท แต่เราจำเป็นต้องเลือกพ่อแม่พันธุ์แท้เป็นสิ่งแรก
ปัจจุบัน ตลาดยังมีไก่งวงไม่เพียงพอต่อความต้องการของกลุ่มผู้บริโภค ทั้งผลิตภัณฑ์ประเภท ไข่ไก่งวงและลูกไก่งวง ทำให้มีออร์เดอร์รอแทบทุกฟาร์มเลยครับ
ไก่งวงที่เลี้ยงกันในบ้านเราจะมีอยู่ไม่กี่สายพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์อเมริกันบรอนซ์ ที่มีขนสีเทาเข้มและดำ ชอบจิกกินหญ้าและเศษอาหารเอง ออกไข่ปีละ 70 ฟองต่อตัว ตัวผู้โตเต็มที่มีน้ำหนัก 15 กก. ส่วนตัวเมีย 9 กก. พันธุ์ต่อมาคือพันธุ์เบลท์สวิลล์ สมอลไวท์ มีขนาดสมอลตามชื่อครับ คือมีขนาดเล็กกว่าพันธุ์แรกที่เราพูดถึง มีขนสีขาวตามชื่ออีกเช่นกัน ให้ไข่ปีละ 80 ฟองต่อปี ตัวผู้มีน้ำหนัก 8 กก. ตัวเมีย 5 กก. และอีกพันธุ์คือพันธุ์บอร์บอนเรด ที่มีสีขนเป็นสีแดง ตัวผู้หนัก 9 กก. ตัวเมีย 4 กก. ออกไข่เท่ากับพันธุ์เบลท์สวิลล์ สมอลไวท์
พออ่านมาถึงบรรทัดนี้ เพื่อนๆ เกษตรกรคงอยากเลี้ยงพันธุ์อเมริกันบรอนซ์ มากที่สุดนะครับ เพราะเลี้ยงไม่ต่างกันแต่ได้ผลผลิตมากกว่ากัน และพันธุ์นี้เป็นพันธุ์ที่เจริญเติบโตเร็ว เลี้ยงไม่ยาก มีราคาขายที่ดี การเลี้ยงนั้น เมื่อเราได้พ่อแม่พันธุ์แท้จนเกิดลูกไก่งวง เราต้องดูแลช่วงอนุบาลให้ดี ไล่เก็บลูกไก่มาดูแลทีละตัวเลยครับ ไม่ต้องรอให้ไก่ฟักออกมาหมดทุกตัวนะครับ เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะโดนพ่อแม่พันธุ์เหยียบลูกไก่งวงตายได้ เพราะไก่งวงเป็นไก่ป่า เลี้ยงลูกไม่เป็น การอนุบาลนั้นเราต้องให้ความอบอุ่นไม่น้อยกว่า 3 เดือน แสงแดดส่องถึงในช่วงเช้า ในกรงเลี้ยงต้องสะอาดและมีลมถ่ายเทดี ใช้จุลินทรีย์เพื่อกำจัดยุง
การให้อาหารนั้น ในช่วงแรกเกิด 24 ชั่วโมง เราจะให้แต่น้ำสะอาดเท่านั้น ห้ามให้อาหารเด็ดขาดครับ ถ้าให้อาหารไก่จะตายในระยะเวลาไม่เกิน 30 วันโดยยังไม่สามารถหาสาเหตุได้ ต่อจากนั้นจึงให้หัวอาหารชนิดเม็ดตลอด 60 วัน แล้วค่อยเปลี่ยนไปเลี้ยงด้วยผักตบชวาสับให้เต็มอิ่ม หรือจะใช้หญ้าเลี้ยงสัตว์สับหยาบแทน ผสมด้วย ปลายข้าว และอาหารโปรตีนเพื่อเสริมการเติบโตของไก่งวง
ความหนาแน่นในการเลี้ยง ก็เป็นเรื่องที่เราต้องให้ความสำคัญครับ เพราะไก่งวงนั้นแต่ก่อนเติบโตในป่า มีความเป็นอิสระสูง จึงไม่ควรเลี้ยงแน่นเกินไป ควรเลี้ยงประมาณ 200-250 ตัวต่อพื้นที่ 1 ไร่ ไม่ถึง 1 ปี ก็สามารถขายไก่งวงได้แล้วครับ
