สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

มะม่วงอาร์ทูอีทู มะม่วงผลกลม ติดลมบนทั้งตลาดไทยและเทศ

เวลาเรากล่าวถึงมะม่วง เรามักจะคิดถึงมะม่วงที่มีทรงผลยาวและปลายผลแหลมเป็นส่วนใหญ่ แต่เวลาเห็นในหนังต่างชาติ อาจเคยสงสัยว่าทำไมมะม่วงเขาคล้ายลูกแอปเปิ้ล และสีผิวของเปลือกผลยังเป็นสีที่แปลกตาไม่เหมือนเปลือกสีเขียวหรือสีเหลืองของบ้านเรา นั่นก็เป็นเพราะมะม่วงที่เราเห็นนั้นคือมะม่วงอาร์ทูอีทูนั่นเองครับ อย่างที่เราทราบกันดีว่ามะม่วงบนโลกใบนี้มีมากมายหลายพันธุ์ หลายชนิดที่เราไม่รู้จัก และหนึ่งในนั้นอาจจะเป็นพันธุ์นี้ล่ะครับแม้จะนำเข้ามาปลูกในบ้านเรามากกว่า 30 ปีแล้ว แต่หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นเคยนัก แต่ปัจจุบันนี้เราควรทำความรู้จักกับพันธุ์นี้กันไว้ซักหน่อย เพราะตลาดทั้งไทยและต่างประเทศมีความต้องการอย่างมาก แม้ว่าราคาอาจจะผันผวนตามตลาดบ้าง แต่ถือว่าราคาดีกว่าหลายๆ พันธุ์ที่ขายกันอยู่

มะม่วงอาร์ทูอีทู เป็นมะม่วงที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นมาและนำมาผลิตและจำหน่ายในเชิงการค้าในปี พ.ศ.2534 ในประเทศออสเตรเลียและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายและเป็นที่ต้องการของตลาดทั่วโลก และเกษตรกรบ้านเราบางรายก็ได้นำมาทดลองปลูกจนได้ผลว่า ปลูกในเมืองไทยเราก็ได้ผลผลิตงามเช่นกัน จนสามารถผลิตเพื่อการส่งออกไปยังต่างประเทศได้ และการปลูกก็มีความคล้ายคลึงกันกับการปลูกมะม่วงบ้านเรา

ต้นมะม่วงอาร์ทูอีทู หรือ R2E2 เป็นไม้ยืนต้นที่มีขนาดปานกลางถึงสูง ทรงพุ่มโปร่ง เนื้อไม้เปราะ ฉีกหักง่าย ช่วง 2-3 ปีแรกที่เริ่มปลูกจะเจริญเร็วมาก แต่เมื่อเข้าสู่ปีที่ 4-5 เมื่อให้ดอกให้ผลต่อเนื่องจะเริ่มชะลอการเติบโตลง โดยเฉลี่ยแล้วจะมีความสูงราว 6 เมตร เมื่ออายุได้ 6 ปี ให้ช่อดอกยาว 10-20 เซนติเมตร ดอกสีชมพูแดงขนาดเล็กมาก ผลมีลักษณะคล้ายแอปเปิ้ล ลักษณะผลกลม บริเวณโคนผลเว้าและมีขั้วผล ผลมีขนาดใหญ่ น้ำหนักเฉลี่ย 600 กรัม – 1 กิโลกรัม ผลมีความยาว 10 เซนติเมตร กว้าง 7 เซนติเมตร และมีความหนาของผลราว 10 เซนติเมตร เปลือกผลมีสีเขียวเหลืองอมชมพูแดง เมื่อสุกเนื้อผลจะมีสีเหลือง เนื้อแน่น รสหวาน ไม่มีเสี้ยน ส่วนใหญ่นิยมรับประทานสุกมากกว่าผลดิบ ซึ่งผลดิบนั้นจะมีความกรอบ รสชาติหวานอมเปรี้ยว นำมาจิ้มน้ำปลาหวานได้

วิธีการขยายพันธุ์มะม่วงอาร์ทูอีทู มักจะใช้การเสียบยอดกับต้นตอที่ทนทานต่อโรคและแมลง เพื่อให้ได้ผลผลิตที่เร็วขึ้นและไม่ให้เกิดการกลายพันธุ์ โดยให้คัดต้นแม่พันธุ์ที่มีความสมบูรณ์ การดูแลต้นพืชหลังให้เน้นการให้ปุ๋ยคอก หากเป็นช่วงแล้งต้องให้น้ำเพิ่มเสมอ อย่างน้อย 3 วันต่อครั้ง เมื่อมะม่วงเริ่มติดผลและเริ่มมีขนาดประมาณผลมะนาว ให้เราตัดแต่งใบและกิ่งออกเพื่อให้แสงแดดส่องถึงผลไม้ จะทำให้ผิวเปลือกของมะม่วงมีสีแดงสวย และเมื่อผลโตแล้วให้ใช้ถุงคาร์บอนห่อผลไม้ห่อไว้เพื่อให้สีผิวสดใสยิ่งขึ้น

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook