มะม่วงเป็นผลไม้ที่คนไทยทั่วทุกภาคคุ้นเคยดี ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์ที่มีรสชาติเปรี้ยวหรือหวานมัน ตั้งแต่มะม่วงอกร่อง มะม่วงน้ำดอกไม้ มะม่วงฟ้าลั่น มะม่วงเขียวเสวย และอีกหลายสายพันธุ์ ทั้งที่เป็นมะม่วงเชิงการค้าและมะม่วงป่า ซึ่งแต่ละพันธุ์ก็มีลักษณะเด่นแตกต่างกันไปทั้งตอนที่ผลดิบและผลแก่ ดังนั้น จึงนับว่ามะม่วงเป็นผลไม้ที่มีความหลากหลายให้ผู้บริโภคได้เลือกรับประทาน และยังมีแบบรับประทานดิบและรับประทานสุกให้เลือกอีกด้วย
มะม่วงฟ้าลั่นนั้น เมื่อเราเลือกรับประทานเป็นมะม่วงดิบ จะมีความกรอบ เปราะ เนื้อผลละเอียด เนียน สีเนื้อผลขาวนเฉดเขียว เปลือกผลเมื่อดิบจะมีสีเขียว เปลือกหนา รสชาติมันตั้งแต่ยังเป็นผลอ่อนและจะยิ่งมันหวานมากขึ้นเมื่อผลแก่ได้ที่ เมื่อสุกผลเปลือกผลจะมีสีเหลือง และเนื้อผลจะมีสีเหลืองเช่นกัน ผิวเนื้อผลละเอียด ไม่ค่อยพบเสี้ยน รสหวานพอประมาณ ตรงกลางผลจะมีเมล็ดเดี่ยว 1 เมล็ด มีเสี้ยนบริเวณเมล็ด สามารถนำเมล็ดไปขยายพันธุ์ได้ นอกขากนำมารับประทานผลดิบและสุกเพื่อเป็นผลไม้แล้ว เนื้อผลของมะม่วงยังจัดว่ามีสรรพคุณในการลดอาการคลื่นไส้ พะอืดพะอม วิงเวียนศีรษะ และช่วยทำให้ลดความกระหายน้ำ ส่วนเมล็ดก็ยังสามารถนำมาตากแห้งแล้วต้มในน้ำสะอาด นำน้ำที่ได้จากการต้มมาดื่มกินเพื่อแก้อาการแน่นท้อง หรือจำนำมาบดเป็นผงเพื่อใช้เป็นยาขับพยาธิได้ด้วย ส่วนใบสดสามารถนำมาต้มแล้วนำน้ำที่ต้มมาดื่มแก้อาหารบิดมวน ขณะที่เปลือกต้นสามารถนำมาต้ม นำน้ำไปที่ได้ไปดื่มแก้ไข้
โดยทั่วไปแล้ว ต้นมะม่วงฟ้าลั่นจะมีความสูงเมื่อเติบโตเต็มที่ประมาณ 10-15 เมตร มีทรงพุ่มกว้างราว 5 เมตร ลักษณะของเปลือกลำต้นจะมีสีน้ำตาลเข้ม ผิวแตกขรุขระ เป็นร่องลึกตามแนวยาวตลอดทั้งลำต้น แตกกิ่งก้านจำนวนมาก ผลิใบแบบใบเดี่ยวรอบกิ่งไม้ ใบเมื่อแรกผลิเป็นสีแดงอมม่วงก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้มเมื่อแก่ มีเส้นแขนงใบและเส้นกลางใบที่ชัดเจน แผ่นใบเป็นคลื่นเล็กน้อย ผิวใบและท้องใบเรียบเนียน ขอบใบเรียบ มีก้านใบ เมื่อผลิดอกจะแตกออกเป็นช่อทรงพีรามิดคล้ายฉัตรเป็นชั้นๆ ดอกย่อยมีสีเหลือง บานไล่ระดับจากโคนไปสู่ปลายช่อ ดอกมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ดอกร่วงง่าย การชยายพันธุ์มะม่วงฟ้าลั่น สามารถทำได้ทั้งการเพาะเมล็ด ตอนกิ่งและทาบกิ่งเสียบยอด เหมือนมะม่วงทั่วไป และจัดเป็นหนึ่งในพันธุ์มะม่วงที่เกษตรกรนิยมทำการผลิตนอกฤดู เป็นพืชที่ชอบแสงแดด เจริญได้ดีในดินร่วนปนทราย ดังนั้นก่อนปลูกจึงต้องตรวจสอบคุณภาพดินและน้ำด้วย