ต้นปาล์มประดับ จัดเป็นหนึ่งในไม้เพื่อการจัดสวนที่สวยงามและมีลักษณะการเจริญเติบโตที่ไม่เกิดผลกระทบต่อโครงสร้างของสิ่งปลูกสร้างและทัศนียภาพของสถานที่ ด้วยทรงพุ่มที่ไม่หนาทึบจนเกินไป ฟอร์มของพุ่มสวย และมีหลากหลายชนิดให้เลือกซื้อหาตามสไตล์ของแต่ละบุคคลและให้เหมาะสมกับขนาดพื้นที่บริเวณที่เราจะทำการปลูก โดยการปลูกนั้นควรปลูกในบริเวณกลางแจ้งเพราะปาล์มจะเจริญได้ดี หากจะลงมือปลูกหลายต้น ให้ปลูกห่างกันไม่น้อยกว่า 3 เมตร เพื่อให้รากไม่ต้องแย่งอาหารกันทำให้ต้นไม้เติบโตได้เต็มที่ กิ่งก้านไม่ขี่กัน จนดูรกไม่สวยงาม
ต้นปาล์มประดับที่ได้รับความนิยมนำมาจัดสวนมีหลากหลายพันธุ์และหลายชนิด แต่ในบทความนี้เราจะขอยกตัวอย่างมาเพียงบางส่วนเท่านั้น โดยชนิดแรกที่เราจะชวนคุยคือ ปาล์มหางกระรอก เป็นปาล์มจากฝั่งออสเตรเลีย นิยมนำมาปลูกกันเมื่อความสูงได้ 2-5 เมตร แต่สามารถสูงได้ถึง 10-20 เมตรกันเลย ส่วนปาล์มอีกชนิดที่เพิ่งฮิตกันไปหมาดๆ คือ อินทผลัม ปาล์มจากฝั่งภารตะ ที่แม้จะเป็นปาล์มขนาดใหญ่แต่นักเลงปาล์มหลายรายก็นิยมนำไปปลูกในขณะที่ลำต้นสูงราว 4- 5 เมตร เพื่อไม่ให้ปลายทางใบที่ห้อยย้อยลงมาโดนศีรษะคน
ต้นปาล์มประดับอีกชนิดจากดินแดนมาดากัสการ์ เกาะทางบนของออสเตรเลีย คือ หมากเขียว เป็นปาล์มที่มีการแตกกอแผ่ขยายได้งดงาม ส่วนหมากแดงนั้นจะโดดเด่นที่สีสันแดงจ้าบริเวณลำต้นและเส้นกลางใบที่เด่นชัด ทรงของต้นสวยงาม เติบโตช้าๆ ทำให้ไม่ต้องคอยตัดกอมากนักเมื่อเทียบกับหมากเขียว จนกลายเป็นปาล์มในใจที่นักเล่นปาล์มต้องมีไว้ในครอบครอง ส่วนใครชอบสีทองอาจจะต้องมองหาหมากนวลจากฝั่งฟิลิปปินส์ สวย ทนทาน ทนน้ำได้ดี เป็นปาล์มที่มีสีทองทุกส่วน ยิ่งชัดเจนในส่วนของคอและใบย่อย
ต้นปาล์มยอดนิยมอีกชนิดที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้คือ ปาล์มเป็ตติโค้ท จากฝั่งอเมริกาที่นิยมปลูกเป็นแนว นิยมล้อมมาเพื่อไปประดับสวนที่ความสูงราว 3-6 เมตร ส่วนปาล์มที่ราคาไม่ธรรมดาที่ตลาดเล่นกัน คือ ปาล์มอ้ายหมี ปาล์มหมีเทา และปาล์มเคราฤาษี จากแถบละตินอเมริกา ประเทศคิวบา ที่ฟอร์มสวย โตช้า แต่ราคาสูงใช่ย่อย
จะเห็นได้ว่า ตลาดปาล์มประดับนั้น ยังเป็นตลาดที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และมีพันธุ์ปาล์มมากมายให้ผู้ที่สนใจนำมาเพาะขยายพันธุ์ จำหน่ายให้แก่กลุ่มนักออกแบบสวน ภูมิสถาปนิก ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มตลาดที่มีความจำเพาะแต่เติบโต ยิ่งสังคมเมืองขยายมากขึ้นเท่าใด ความต้องการไม้ประดับตกแต่งสวนย่อมมากขึ้นตามไปด้วย เพราะต้นไม้ตามธรรมชาติในชุมชนเมืองจะมีน้อยลงนั่นเอง