การปลูกมะนาวในบ่อซีเมนต์ เป็นอีกวิธีหนึ่งในการจัดการฟาร์มเพาะปลูกตั้งแต่เรื่องดิน การให้น้ำ การดูแลทรงพุ่ม การควบคุมโรค และการควบคุมให้เกิดผลผลิตนอกฤดู โดยสามารถควบคุมได้แบบต้นต่อต้น แม้ว่าจะต้องใช้เงินลงทุนที่ค่อนข้างสูงในช่วงเริ่มต้น เพราะจำเป็นจะต้องซื้อหาท่อคอนกรีตสำเร็จรูปและฝารอง รวมทั้งการวางระบบน้ำและการลงทุนในกิ่งพันธุ์ดี แต่หากดูแลต้นมะนาวได้ดีและบังคับให้ออกผลผลิตในช่วงเดือนมีนาคมและเมษายนซึ่งเป็นช่วงที่มะนาวขาดตลาด จะสามารถสร้างรายได้อย่างงาม
ก่อนที่จะลงมือปลูก เราต้องทำการวางแผนในการปลูกมะนาวโดบคำนวณจำนวนบ่อซีเมนต์ให้เหมาะสมกับพื้นที่เพาะปลูกที่มีอยู่ แต่ละต้นควรมีระยะห่างระหว่างกันราว 120 เซนติเมตร แต่ละแถวห่างกัน 150 เซนติเมตร ปลูกขนานกันเป็นแถวคู่ และเว้นทางเดินไว้ประมาณ 2 เมตร สภาพพื้นดินต้องเรียบ จำนวนบ่อควรจัดวางเป็นจำนวนคู่ เพื่อจะได้วางระบบน้ำได้ลงตัวและคำนวณแรงดันน้ำได้ง่าย เมื่อวางแผนเรื่องการวางบ่อแล้ว จะต้องเตรียมเรื่องของระบบน้ำทั้งในส่วนน้ำที่ใช้บำรุงต้นมะนาวและระบบน้ำที่ใช้เพื่อเพิ่มแรงดัน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเลือกใช้แทงค์น้ำที่ก่อขึ้นมาจากวงบ่อซีเมนต์
สำหรับการเตรียมดินและวัสดุปลูกในการปลูกมะนาวในบ่อซีเมนต์จะใช้วัสดุหลักคือดิน, มูลวัวเก่า, เปลือกถั่วเขียว ในอัตราส่วน 3:1:2 โดยวัตถุประสงค์ที่นำเปลือกถั่วเขียวมาผสมนั้นเพื่อให้ดินและมูลวัวไม่จับตัวกันแน่นจนเกินไป ทำให้ดินโปร่งขึ้นและน้ำสามารถไหลผ่านลงไปยังก้นบ่อได้สะดวก สามารถเลี้ยงรากไม้ได้ทั่วถึงและป้องกันปัญหาโรครากเน่าได้ด้วย โดยการใส่ดินลงไปในบ่อควรใส่ให้พูนขึ้นเหนือขอบบ่อ เผื่อการยุบตัวของดินหลังจากมีการให้น้ำ เมื่อเติมดินในบ่อแล้วให้ขุดหลุมขนาดเดียวกันกับถุงเพาะชำ รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคิกแล้วนำต้นกล้าออกจากถุงดำลงปลูก ก่อนที่จะกลบดินให้แน่นพอประมาณแล้วปักไม้ค้ำ ผูกต้นกล้ายึดไว้ และทำการให้น้ำผ่านสปริงเกอร์ขนาดเล็ก
ควรปลูกมะนาวในช่วงเดือนมกราคม หลังจากปลูกมะนาวแล้ว 8 เดือน จะสามารถบังคับให้ให้ติดดออกได้ ซึ่งจะทำให้ติดผลและได้ผลผลิตในช่วงฤดูแล้งในปีถัดไป ซึ่งจะทำให้ขายได้ราคาดี โดยในปีถัดไปสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตขายได้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์จนกระทั่งเดือนเมษายน โดยบังคับให้มะนาวออกดอก 2 รุ่น ให้รุ่นแรกออกดอกในเดือน กรกฎาคม เพื่อเก็บผลขายในเดือนกุมภาพันธ์ และรุ่นที่ 2 บังคับออกดอกในเดือนสิงหาคม เพื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตในเดือนมีนาคมและเมษายน