สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

มะรุม มีดีมากกว่านำมาทำแกงส้ม

มะรุม เป็นหนึ่งในผักสมุนไพรบ้านนา ที่เราเห็นตามรายทางทั่วไปนั้น ไม่ได้มีเพียงความเด็ดในการนำมาทำแกงส้ม หรือลวกจิ้มน้ำพริก แต่มีสรรพคุณทางยาสารพัด โดยเฉพาะโรคไม่ติดต่ออย่างภาวะความดันโลหิตสูงและภาวะเบาหวาน รวมทั้งเรื่องของการลดน้ำหนัก ลดไขมันในเส้นเลือดด้วย จนทำให้ราคาขายสดพุ่งสูงถึงกิโลกรัมละพันบาท

จากข้อมูลในเว็บไซต์ของคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลได้รวบรวมการศึกษาและผลวิจัยต่างๆ เกี่ยวกับมะรุม ทั้งมะรุมสด มะรุมแห้ง มาเผยแพร่ว่า ในตำรับยาแผนไทย ได้นำใบมะรุมมาช่วยห้ามเลือด ประคบแผลสด บรรเทาไข้ กระตุ้นให้นอนหลับง่าย แก้กษัย ปรับปรุงระบบการขับถ่ายให้ดีขึ้น ผลมะรุมและดอกมะรุมนั้น ก็สามารถแก้กษัย ลดไข้และใช้บำรุงธาตุในร่างกายเราได้ และเมล็ดมะรุมเมื่อบดแล้วนำไปพอกบริเวณข้อเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดได้

ในแง่ของการวิจัยทางวิทยาศาสตร์นั้น พบว่า มะรุมมีฤทธิ์ทางเภสัชหลายประการ เช่น ฤทธิ์ต้านมะเร็งและเนื้องอก ลดความดันและคลอเรสเตอรอล ป้องกันไม่ให้เกิดแผลในกระเพาะและตับอักเสบ ต้านการอักเสบและแบคทีเรีย รวมทั้งต้านอนุมูลอิสระ จนทำให้ไม้ยืนต้นชนิดนี้กลายเป็นต้นสมุนไพรที่ใครๆ ก็ให้ความสนใจ เพราะใช้ประโยชน์ได้แทบทุกส่วนของต้น จนถูกขนานนามว่าเป็น “ต้นไม้ผลิตยาประจำบ้าน” กันเลยครับ และนอกจากใช้เป็นยาแล้ว มะรุมยังได้รับการยอมรับว่ามีโปรตีนสูงมาก จนกลายเป็นโปรตีนชั้นเยี่ยมที่ปลูกได้เองในบ้าน และยังมีวิตามินเอถึง 3 เท่าของแครอทในปริมาณเท่ากัน ช่วยบำรุงสายตาเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็น มีวิตามินซีสูงกว่าผลส้มถึง 7 เท่า เป็นต้น

ในประเทศญี่ปุ่นได้นำใบมะรุมมาใช้เพื่อการรักษาอาการขาดวิตามินบี อาการปวดหัว เสริมสร้างระบบทางเดินอาหารและลำไส้  ส่วนในอินเดียจะนำใบมะรุมมาปรุงอาหารให้หญิงตั้งครรภ์รับประทานเพื่อบำรุงเลือด และในฟิลิปปินส์ก็นำมาให้หญิงที่ให้นมบุตรรับประทานเพื่อกระตุ้นการเกิดน้ำนมและแคลเซียม

การปลูกมะรุมนั้น ปลูกได้ไม่ยากเลยครับ เติบโตได้ในดินทุกชนิด อย่างที่เราเห็นกันตามรายทางนั่นแหละครับ แค่นำเมล็ดมาเพาะหรือจะใช้วิธีการปักชำก็ได้ ให้น้ำพอชื้น ถอนหญ้าวัชพืชในช่วงแรกปลูก เติมปุ๋ยคอกบริเวณโคนต้น แต่ด้วยมะรุมจะมีหนอนคอยทำลายลำต้นและกิ่ง เราควรใช้สมุนไพรกำจัดแมลงผสมน้ำด่างฉีดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ต้นมะรุมมีอายุยืนยาว ส่วนโรคอื่นๆ นั้นไม่ต้องห่วงครับ กำจัดหนอนได้ ก็เก็บผลผลิตได้สบายครับ

ใช้เวลาเพียง 3 เดือน ก็เก็บผลผลิตรุ่นแรกได้แล้วครับ หลังจากนั้นก็ผลิใบให้เก็บเกี่ยวได้ทุก 2 เดือน จะนำไปขายเป็นมะรุมสด ตากแห้ง หรือทำเป็นน้ำมันมะรุมสกัดเย็น ก็ขึ้นอยู่กับความถนัดแล้วครับ ยิ่งแปรรูปก็ยิ่งได้ราคานะครับ

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook