ปลายี่สกที่เรามักพบในแม่น้ำสายใหญ่ เป็นปลาที่อยู่ในวงศ์เดียวกันกับปลานวลจันทร์แม่น้ำและปลาตะเพียน
เป็นปลาที่เคยถูกขนานนามว่าเป็นปลาชั้นเยี่ยมของเมืองราชบุรี ไม่น้อยหน้าปลาจาดแห่งเมืองเพชรบุรีกันเลยครับ
ปลาพันธุ์นี้ชอบอาศัยอยู่ในน้ำลึกระดับ 5 เมตรขึ้นไป พื้นน้ำเป็นกรวดทราย ใสสะอาด และต้องเป็นน้ำที่จืดจริงๆ และมีธารน้ำไหลวน โดยกินพืช ปูเล็ก กุ้งฝอย และไรน้ำเป็นอาหาร
ลูกปลายี่สกจะมีนิสัยอยู่รวมกัน ไม่ชอบแยกจากฝูง ใช้ชีวิตในบริเวณใต้ท้องน้ำที่เป็นโคลนหนาตั้งแต่ 10เซนติเมตรขึ้นไป และจะเริ่มว่ายทวนน้ำในช่วงปลายฝนต้นหนาวเพื่อไปวางไข่ แล้วในช่วงต้นฤดูฝน จึงว่ายตามน้ำกลับถิ่นที่อยู่เดิมอีกครั้ง ใช้ชีวิตหมุนเวียนเป็นวงจรเช่นนี้ตลอดเวลา
ความโดดเด่นของปลายี่สก จะเห็นได้ชัดจากลำตัวกลมยาว มีสีผิวเหลืองอมเขียวคาดด้วยแถบสีดำจำนวน 7 แถบบริเวณข้างลำตัว เหนือปากมีหนวด 2 เส้น มีฟัน 4 ซี่อยู่บริเวณคอหอย เรียงตัวกันในแถวเดียว ดวงตามีสีแดง ครีบต่างๆ มีสีชมพูแซมเทา หางเว้าและมีขนาดใหญ่ ขนาดปลาชนิดนี้ที่เคยพบใหญ่สุดมีขนาดถึง 135 เซนติเมตร และมีน้ำหนักตัวถึง 40 กิโลกรัม
ปลายี่สกเพศผู้จะมีน้ำเชื้อแข็งแรงในเดือนพฤศจิกายนและจะวางไข่ในเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ โดยจะจับคู่ตัวผู้ตัวเมียว่ายทวนน้ำไปแหล่งวางไข่ที่เป็นเกาะแก่งกลางแม่น้ำใหญ่ มีกระแสน้ำไหลและใสรับแสงได้ลึกถึง 10 เซนติเมตร มีแหล่งสะสมอาหารบริเวณท้ายเกาะ แล้วปลายี่สกจะอยู่รวมกันเป็นฝูง คู่ใครคู่มัน ช่วงวางไข่จะเป็นช่วงที่ปลายี่สกถูกลอบจับมากที่สุดเพราะมีความเชื่องและมีไข่ปลา
การเพาะเลี้ยงปลายี่สกสามารถหาพันธุ์ปลาได้จากแหล่งน้ำธรรมชาติหรือหาซื้อจากฟาร์มหรือสถานีประมงน้ำจืด เมื่อได้ลูกปลาที่มีอายุ 2 วัน เราต้องเริ่มนำไข่แดงต้มบดผสมกับอาหารผงแล้วผสมในน้ำสาดลงบ่อเป็นอาหารลูกปลาทุกเช้าเย็นเป็นเวลา 3 วันแล้วจึงย้ายลูกปลาลงบ่อดิน เปลี่ยนอาหารที่ให้เป็นรำป่น 9 ส่วนผสมปลาป่น 6 ส่วนและกากถั่วป่น 5 ส่วน จนกว่าปลาจะมีอายุครบ 30 วัน มีขนาดลำตัวประมาณ 2.5 เซนติเมตรจึงย้ายบ่ออีกครั้ง
การเลี้ยงปลาชนิดนี้ใช้เงินลงทุนละระยะเวลามาก ดังนั้นเพื่อนๆ เกษตรกรที่ยังไม่พร้อมเรื่องทุน ควรเลี้ยงผสมผสานกับปลาไน ปลาจีนและปลาสวาย โดยมีสัดส่วนปลายี่สก 100 ตัวต่อปลาอื่นๆ 3,500 ตัว เพื่อให้คุ้มค่าการลงทุนและสามารถสร้างรายได้ได้อย่างต่อเนื่องครับ