ผักกระสังเป็นพืชผักที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน ใช้รับประทานทั้งสดและสุกในหลายเมนู โดยเฉพาะลวกจิ้มน้ำพริก หรือจะเป็นแกงต่างๆ ทั้งแกงป่า แกงเลียง แกงจืด หรือผัดผักกระสังไฟแดงก็ได้รสชาติไม่น้อย และยังให้วิตามินซีและเบต้าแคโรทีนสูง และยังมีความเป็นกรดบางๆ ช่วยยับยั้งแบคทีเรียและเชื้อราได้ และที่สำคัญคือไม่มีสารออกฤทธิ์ที่เป็นพิษต่อร่างกายเราอีกด้วย
ผักกระสัง ถูกนำมาใช้ในการรักษาโรคต่างๆ ในหลายประเทศ ในเกาะฟิลิปปินส์นั้น นิยมนำใบกระสังมาต้มในน้ำจนเคี่ยวเหลือ 1 แก้ว แล้วแบ่งดื่มเช้าเย็นคราวละครึ่งแก้ว เพื่อบรรเทาอาการข้ออักเสบ และยังลดค่ากรดยูริคด้วย และในบางประเทศยังนำผักกระสังมาใช้รักษาอาการตาเป็นต้อ ส่วนหมอพื้นบ้านไทยเรานั้นจะนำต้นกระสังสดๆ มาโขลกตำให้ละเอียดแล้วนำมาประคบบริเวณที่เป็นฝีอักเสบเพื่อขับหนอง หรือจะนำต้นกระสังผสมเข้ากันกับข้าวสารและขมิ้นโขลกให้ละเอียดแล้วนำไปประคบไว้บริเวณที่เป็นเริม เพื่อระงับอาการของเริม และยังน้ำที่คั้นจากผักกระสังมาชโลมลงบนผมเพื่อให้ผมนุ่มสลวยและ ลดอาหารหลุดร่วง
ผักกระสัง เป็นผักที่มีรสเผ็ดซ่าเล็กน้อย คล้ายวาซาบิ เป็นพืชล้มลุก สูงไม่เกิน 30 ซม. ลำต้นอวบน้ำมีสีเขียวใส ใบมีรูปทรงคล้ายใบโพธิ์ มีดอกเป็นช่อ สามารถเติบโตได้เองตามธรรมชาติ ซึ่งส่วนใหญ่เพื่อนๆ เกษตรกรก็จะมองว่าเป็นวัชพืช เจอที่ไหนต้องถอนทิ้งหรือใช้สารเคมีกำจัดกันเลยทีเดียว เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ อาจจะไปแย่งธาตุอาหารพืชผักหลักที่เราปลูกไว้ขายเสียหมด จึงต้องมีการเขตกรรมกำจัดกันออกไป
และยังมีเพื่อนๆ เกษตรกรบางท่าน ที่สามารถพลิกแพลงนำเอาวัชพืชที่มีคุณค่าทางสมุนไพรแบบผักกระสัง มาสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างมาก โดยเฉพาะการแปรรูปเป็นอาหารเสริมหรือสมุนไพรสำเร็จรูป อย่างน้ำสกัดผักกระสัง ที่นำเอาผักกระสังมาสกัดเอาเฉพาะน้ำ เพื่อใช้รับประทานลดเบาหวานและลดคลอเรสเตอรอลในเลือด หรือนำใบไปตากแห้ง ชงเป็นชา หรือนำใบตากแห้งไปบดละเอียดบรรจุแคปซูลเพื่อใช้ในเชิงสมุนไพรอีกด้วยนะครับ
ส่วนเพื่อนๆ ที่ยังไม่คิดว่าจะปลูกเป็นธุรกิจ แต่อยากปลูกไว้รับประทานในบ้าน ก็ปลูกไม่ยากเลยครับ แค่นำเมล็ดมาหยอด ดูแลเหมือนพืชผักทั่วไป รดน้ำเช้าเย็น ยิ่งอยู่ไกลสารเคมียิ่งขึ้นดีครับ ไม่ถึง 1 เดือนก็ได้ผักกระสังสดๆ มารับประทาน จะทำเป็นผักสดราดน้ำสลัดทาน หรือจะทำเป็นยำก็ได้ ทานแล้วได้วิตามินเกลือแร่เต็มสูตร แถมยังได้รสชาติที่แสนอร่อย เรียกได้ว่า “ครบถ้วน” จริงๆ ครับ