สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

แก้วมังกร

แก้วมังกร ภาษาอังกฤษในโซนยุโรปและอเมริกา เรียกว่า Pitaya แต่คนรุ่นใหม่ๆ ก็เรียกว่า Dragon fruit โดยถือกันว่ามีถิ่นกำเนิดจาก Mexico ลักษณะภายนอกจะมีเปลือกเป็นสีชมพูเข้ม เนื้อในเป็นสีขาวหรือสีชมพูม่วงอมแดงหรือสีเหลืองแล้วแต่พันธุ์ เพราะมีการพัฒนาสายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง

แรกเริ่มเดิมทีที่เรานำมาปลูก รสชาติของแก้วมังกรนั้นจืดสนิทเลย แต่ที่นำมาปลูกกันเพราะพบว่ามีสรรพคุณทางเภสัชวิทยาหลายประการ ทั้งลดน้ำตาล เบาหวาน ไขมัน กระตุ้นการผลิตน้ำนม ป้องกันมะเร็ง เสริมภูมิต้านทาน บำรุงกระดูกและฟัน จนคนฝรั่งขนานนามว่า Super Food หรือ สุดยอดอาหารกันเลย

เมื่อนำพันธุ์มาปลูกแล้วไม่อร่อย ก็มีการปรับปรุงพันธุ์กันจนรสชาติดีขึ้นเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค และเกิดการขยายพันธุ์นำมาปลูกกันเพิ่มมากขึ้น และมีการพัฒนาพันธุ์กันอย่างต่อเนื่องเลยครับ

แก้วมังกรเป็นพืชตระกูลเดียวกันกับต้นแคคตัส เป็นต้นไม้มีหนาม เคล็ดลับการเลือกต้นมาปลูก คือให้เลือกเฉพาะกิ่งที่ผลิยอดอ่อน มีสีเขียวเข้ม กิ่งอวบ ยาวประมาณ 50-80 ซม.หรือมากกว่านั้น เพื่อแสดงถึงรากที่สมบูรณ์เต็มที่ไม่เสี่ยงต่อโรครากเน่า

การปลูกแก้วมังกรจะต้องมีเสาหลักสูง 2 เมตรเพื่อให้ยึดกับลำต้น รองพื้นหลุมปลูกด้วยขุยมะพร้าว แล้วเติมปุ๋ยคอกแล้วนำต้นลงปลูกรอบเสาหลักที่ปักไว้ 4 ต้น ด้านบนของหลักต้องมีค้างเพื่อให้กิ่งแผ่เลื้อยได้ ผูกเชือกรัดไว้กับไม้ให้แข็งแรง แล้วกลบดินทับให้เต็มหลุม ซึ่งส่วนใหญ่เราจะปลูกกันช่วงต้นฝน หรือประมาณเดือนพฤษภาคม เพื่อจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องการให้น้ำบ่อยมาก โดยฤดูฝนเราไม่ต้องรดน้ำเลยยังได้ครับ แต่หากเป็นฤดูแล้งควรรดน้ำสัปดาห์ละครั้ง สิ่งสำคัญคือต้องขยันพันยอดแก้วมังกรที่เติบโตขึ้นกับเสาหลักเสมอ

แก้วมังกรเป็นพืชที่ไม่ชอบแดดจัด ดังนั้นให้เราวางไว้ในที่แสงเข้าถึงรำไรก็เพียงพอ หาเจอแดดจัดลำต้นจะแห้ง ผลผลิตจะไม่ดี หลังจากปลูกแก้วมังกรครบ 30 วัน เราก็เริ่มให้ปุ๋ยคอกกัน โดยเราจะใส่ปุ๋ยปีละ 3 ครั้งในช่วงหน้าแล้งครับ พอช่วงฝนเราก็หยุดใส่ปุ๋ยครับ พอปลูกได้ราวๆ 10 เดือนเมื่อลำต้นสูงเกินเสาหลัก ให้เด็ดยอดปลายทิ้งด้วยมือเรานะครับ ห้ามใช้ของมีคม เพื่อให้แตกยอดเพิ่มอีก พออายุครบปี เราก็เก็บเกี่ยวได้แล้วครับ เพียงแค่รอให้ผลมีสีแดงสุกเต็มที่ ก็นำกรรไกรตัดผลออกมาจากกิ่งด้วยความทะนุถนอมทั้งตัวผลและตัวกิ่ง แล้วนำไปขายได้เลย

โดยส่วนใหญ่เพื่อนๆ เกษตรกรของเราก็นิยมปลูกแก้วมังกรเป็นการทำเกษตรแบบผสมผสาน สร้างรายได้เสริมจากการทำนา เพราะไม่ต้องกังวลเรื่อน้ำท่ามากนัก พอมีเวลาว่างก็มาถอนวัชพืชแค่นั้น เรียกว่าเป็นพืชผลที่ปลูกง่าย ติดดอกออกผลดี มีผลผลิตสูง ใช้เวลาปีเดียวก็ทำรายได้ได้กันแล้ว

แก้วมังกรนับเป็นทางเลือกที่ดีในการปลูกพืชเพื่อสร้างรายได้ทั้งปีกัน ลองนำไปศึกษาต่อกันดูนะครับ

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook