คาโมมายล์ หรือ คาโมไมล์ เป็นดอกไม้เมืองหนาว เป็นไม้ที่ให้ดอกสีขาวสะดุดตา มีกลิ่นหอมละมุน เป็นพืชในวงศ์เดียวกันกับดอกทานตะวัน พบได้ในทุกทวีปทั่วโลก มีถิ่นกำเนิดของพันธุ์พืชในแถบประเทศยุโรปตะวันออกและยุโรปตอนใต้ ด้วยกลิ่นหอมละมุนของดอกชนิดนี้คล้ายกับกลิ่นแอปเปิ้ลอ่อนๆ จึงทำให้ถูกตั้งชื่อว่า chamomile ที่มาจากภาษากรีกที่มีความหมายว่า แอปเปิ้ลบนดิน ส่วนในประเทศไทยเรานั้นมีการปลูกอยู่ในภาคเหนือตอนบนเพราะเป็นทำเลที่มีภูมิอากาศเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชชนิดนี้ และสามารถปลูกได้ในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น
ดอกคาโมมายด์เป็นดอกไม้ที่ได้รับความนิยมมาสกัดเพื่อนำน้ำมันหอมระเหยมาใช้เพื่อเป็นส่วนผสมของตัวยารักษาอาการที่เกิดในระบบทางเดินอาหาร ผสมในยาที่ใช้รักษาอาการระคายเคืองของผิวหนัง และยังถูกนำมาใช้ในการรักษาอาหารวัยทองหรืออาการแปรปรวนก่อนมีประจำเดือน เช่น อาการกระสับกระส่าย ร้อนวูบวาบในสตรี สารในดอกคาโมมายล์ยังมีสรรพคุณช่วยให้ผ่อนคลายและลดความเครียด ทำให้ได้รับความนิยมในการนำมาผลิตเป็นชา ชงกับน้ำอุ่นเพื่อดื่มให้เกิดความผ่อนคลาย
คาโมมายล์ เป็นพืชล้มลุก มีกิ่งตั้งตรงและเรียบ ลำต้นสูงประมาณ 16-60 เซนติเมตร มีดอกสีขาวเนียน กลีบดอกรีขนานกันมีกลีบสีขาวเล็กรอบๆ เกสรมีสีเหลืองเข้ม เกสรลักษณะเรียวยาวคล้ายรวงข้าว ลำต้นกลมสีเขียวหักได้ง่าย ลำต้นมักจะโค้งงอตามแรงลม มีใบคล้ายขนนก ดอกจะเป็นดอกเดี่ยวงอกอยู่บนสุดของต้น ดอกคาโมมายล์จะเป็นดอกสีขาวเล็กๆอยู่ด้วยกันหลายดอก มักจะปลูกขึ้นได้ดีในดินร่วนปนทราย และในสภาพอากาศเย็นที่มีอุณหภูมิ 9-14 องศาเซลเซียส ดังนั้นจะพบว่าในภาคเหนือตอนบนจะเริ่มปลูกดอกชนิดนี้ราวๆ ช่วงต้นธันวาคมเป็นต้นไป โดยแหล่งผลิตที่ใหญ่ที่สุดอยู่ที่ อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย
วิธีการปลูกคาโมมายล์ จะใช้การเพาะเมล็ด โดยจะเริ่มจากการเตรียมดินร่วนปนทรายตากแดดไว้เป็นเวลา 7-15 วันเพื่อกำจัดวัชพืช จากนั้นก็นำดินมาใส่ในกระบะเพาะเมล็ด อาจจะผสมดินกับปุ๋ยคอก หรือ ปุ๋ยหมักก็ได้ และให้หว่านเมล็ดลงในกระบะปลูก วิธีการดูแลให้รดน้ำให้ชุ่ม รอเวลาไม่นานหากสังเกตเห็นเมล็ดแตกหน่อออกใบ 2-3 ใบก็ให้ย้ายลงแปลงปลูกได้ในทันที หรือ อาจจะย้ายลงถุงเพาะชำก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าต้นกล้าจะแข็งแรงและเจริญเติบโตได้ดี ถึงจะนำย้ายต้นกล้าลงแปลงปลูกได้ รอเวลาให้ดอกคาโมมายล์ออกดอกบานสะพรั่ง เพื่อนๆเกษตรกรก็สามารถเก็บเกี่ยวดอก แล้วนำมาผึ่งแดดให้แห้งป้องกันการเกิดเชื้อรา และนำไปอบแห้งแปรรูปเป็นชาจำหน่ายกันต่อไป
