เอื้องหมายนา เป็นพืชไม้ประดับ ที่มีกลีบเลี้ยงของดอกสีแดงกล่ำตัดกับดอกสีขาวนวลและใบสีเขียวเข้มได้อย่างสวยงาม มีต้นกำเนิดที่ประเทศอินเดียในเขตร้อน และเป็นพืชไม้ประดับที่มักจะปลูกกันในเขตอากาศร้อนชื้น เอื้องหมายนาจะเป็นพืชที่ชื่นชอบดินชุ่มชื้นมีน้ำขังแฉะเล็กน้อย โดยต้นเอื้องหมายนามักจะขึ้นตามริมห้วย หนอง คลอง บึง หรือ บริเวณที่มีดินฉ่ำชื้นอุ้มน้ำ และมีแสงแดดส่องถึงบ้างพอประมาณ โดยมักจะขึ้นได้ดีหากมีแสงแดดส่องถึงประมาณครึ่งวัน หรือ ไม่โดนแดดจัดทั้งวันมากจนเกินไป เพราะหากโดนแดดมากจะทำให้เอื้องหมายนาคลายน้ำเยอะ และมีความชื้นไม่เพียงพอในการเจริญเติบโตได้
เอื้องหมายนาจะมีรากเป็นเหง้าฝั่งอยู่ใต้ดิน ซึ่งเหง้าของเอื้องหมายนานั้นมีแป้งมากถึง 60% บางประเทศนำเหง้าของเอื้องหมายนามาบริโภคเป็นอาหาร นอกจากจะมีแป้งเยอะแล้ว ยังมีเส้นใยอาหารจำนวนมากอีกด้วย โดยประเทศที่นิยมบริโภคเหง้าและส่วนหน่ออ่อนเอื้องหมายนานั้น ได้แก่ ประเทศมาเลเซีย อินเดีย และฟิลิปปินส์ จะบริโภคโดยการนำเหง้าของเอื้องหมายนามาต้ม ส่วนในประเทศไทยเรานั้นจะนำหน่ออ่อนและดอกอ่อนมาทำแกงเลียง แกงส้มหรือลวกจิ้มน้ำพริก นำใบสดมารับประทานคู่กับส้มตำ ยำ พล่า ขณะเดียวกันยังนำมาใช้เป็นสมุนไพรลดน้ำตาลในเลือด ขับพยาธิ บรรเทาอาการอักเสบในทางเดินปัสสาวะ ช่วยย่อยอาหาร นอกจากนี้ยังนำมาใช้ประโยชน์เป็นประดับอาคารสถานที่ทั้งในร่มแลกลางแจ้ง พร้อมทั้งตัดดอกมาประดับแจกัน และในพื้นที่อำเภอโพธิ์ชัย จังหวัดร้อยเอ็ด ยังนำมาประกอบพิธีสู่ขวัญควายในฤดูกาลทำนา โดยนำไปปักไว้ทั้ง 4 ด้านของแปลงนา ตามความเชื่อที่ว่าจะช่วยป้องกันศัตรูพืชได้
การปลูกต้นเอื้องหมายนานั้นสามารถปลูกได้โดยการแยกเหง้า รวมทั้งวิธีการเพาะเมล็ด โดยเมล็ดของเอื้องหมายนาจะอยู่ในผลของต้นเอื้องหมายนาเอง หากใช้วิธีแยกเหง้ามาปลูก ให้เลือกเหง้าที่แข็งแรงสมบูรณ์ ดินที่ใช้ปลูกสามารถใช้เป็นดินร่วนได้ จากนั้นนำปุ๋ยคอก หรือ ปุ๋ยหมัก มาคลุกเคล้าให้เข้ากันกับดินร่วน และควรตากดินก่อนปลูกอย่างน้อย 1 สัปดาห์เพื่อกำจัดวัชพืช เมื่อตากดินเรียบร้อยแล้วให้ขุดหลุมมีความลึกพอประมาณเนื่องจากบริเวณรากของต้นเอื้องหมายนามีเหง้าอยู่มาก จากนั้นนำเหง้า หรือ เมล็ดเพาะลงในดินและกลบดินรดน้ำให้ชุ่ม หากเพาะในกระถาง หรือ กระบะเพาะ รอเมื่อต้นเอื้องหมายนาเริ่มแตกหน่อแล้วก็สามารถย้ายลงดินได้เลย วิธีดูแลควรหมั่นรดน้ำให้ชุ่มเสมอ ดูแลไม่ให้ต้นเอื้องหมายนาชื้นมากจนเกินไปและไม่ให้โดนแดดมากจนเกินไปด้วย