ส้มซ่าเป็นผลไม้พื้นบ้านที่มีสรรพคุณสมุนไพร และยังใช้แต่งกลิ่นแต่งรสชาติของอาหารตำรับชาววังโบราณ อย่างเช่น หมี่กรอบชาววัง หมูแนม ปลาแนม ซึ่งปัจจุบันอาหารเหล่านี้ ก็เริ่มหารับประทานได้ยากแล้ว เพราะรสนิยมที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ซึ่งผลไม้อย่างส้มซ่าเองก็เคยถูกลืมเลือนกันไปเช่นกัน ทำให้ผลส้มซ่า มักจะหาซื้อได้ยากมาก เพราะในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ไม่ค่อยมีใครนิยมปลูกกันแล้ว จึงทำให้จำนวนต้นเหลือน้อยลงไปทุกที
สาเหตุที่คนทั่วไปไม่ค่อยนิยมปลูกกัน เป็นเพราะเรื่องรสชาติของส้มซ่า ซึ่งถือว่าเป็นส้มชนิดหนึ่ง แต่มีรสชาติด้อยกว่าส้มชนิดอื่น เพราะมีรสชาติเปรี้ยวนำอมหวานและขม หรือถ้าจะมาใช้ปรุงรสชาติอาหาร หรือปรุงกลิ่นอาหารทั่วๆ ไปแทนมะนาวหรือมะกรูด ก็แทนกันไม่ได้ เพราะกลิ่นและรสชาติของส้มซ่า เหมาะกับอาหารตำรับชาววังบางอย่างเท่านั้น และหากจะนำมาใช้เป็นสมุนไพร ก็ต้องยอมรับว่าสมุนไพรหลาย ๆ ชนิดที่ปลูกอยู่ทั่วไป ก็มักจะมีสรรพคุณที่เหมือนหรือใกล้เคียงกัน สามารถใช้แทนกันได้ ทำให้ส้มซ่า อยู่ในถานการณ์ที่ลำบาก คนที่เคยปลูกไว้แล้วก็ไม่ปลูกเพิ่ม คนที่ไม่เคยปลูก ก็ไม่คิดจะปลูกอยู่ดี
แต่ในช่วงประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา ผลจากการแพร่กระจายที่รวดเร็ว และกว้างขวาง ของข้อมูลข่าวสาร และความรู้ต่างๆ ช่วยสร้างกระแสนิยมให้เกิดขึ้นได้ง่าย ทั้งความรู้ด้านการเกษตร สมุนไพร สุขภาพ เมนูอาหาร เครื่องดื่ม การแปรรูปสินค้า ฯลฯ รวมถึงการสร้างโอกาส และช่องทางใหม่ๆ ในการค้าขายได้ง่ายดายอีกด้วย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนมีส่วนทำให้บรรดาพืชพันธุ์ ผักผลไม้ สมุนไพร ที่เป็นของพื้นบ้านแต่โบราณ ที่คนอาจลืมเลือนกันไปแล้วหลายชนิด เช่น ลูกหว้า ตะขบ ลูกหม่อน มะเกี๋ยง ฯลฯ ได้มีโอกาสย้อนเวลากลับมาเป็นที่นิยมและรู้จักถึงคุณประโยชน์ในรูปแบบใหม่ๆ
ส้มซ่า เป็นไม้ยืนต้นสูง 3-10 เมตร ทรงพุ่มกลม กิ่งก้านดก มีหนาม ใบหนา สีเขียวเข้ม มีกลิ่นหอม มีผลขนาดใหญ่กว่ามะกรูด เปลือกหนา ผิวขรุขระ สีเขียวเข้ม เมื่อสุกงอมเป็นสีเหลือง สามารถปลูกได้ง่ายในดินทุกชนิด ทนได้ทุกสภาพอากาศ ชอบความชุ่มชื้น นิยมขยายพันธุ์ด้วยวิธีตอนกิ่ง เพราะให้ผลผลิตได้ทันใจ ใช้เวลาไม่ถึงปีก็เก็บเกี่ยวผลผลิตได้
ด้านสรรพคุณสมุนไพรนั้น เปลือกผล ใช้ทำยาหอม ส้มฉุน แก้วิงเวียน หน้ามืดตาลาย เนื้อผลของส้มซ่า แก้ท้องอืดเฟ้อ ช่วยฟอกเสมหะ แก้ไอ ใบ ใช้รักษาโรคผิวหนัง โดยนิยมนำเปลือกและผลตากแห้งมาใช้เพื่อปรุงยากัน นอกจากนี้ยังสามารถนำไปแปรรูป เป็นน้ำผลไม้ แยมผลไม้ สบู่ ครีมทาผิว รวมไปถึงเครื่องสำอางอีกหลายชนิด ปัจจุบัน เริ่มมีคนนิยมตามหาส้มซ่า เพื่อมาลองรับประทาน มาทำอาหารหรือนำต้นพันธุ์เพื่อปลูก ทำให้ตอนนี้ ผล กิ่งพันธุ์ หรือต้นกล้าพันธุ์ มีราคาดีขึ้นมาอย่างมาก ส้มซ่าในวันนี้จึงเป็นโอกาสดีที่ไม่ควรมองข้าม สำหรับเพื่อนๆ เกษตรกรที่สนใจพืชพันธุ์หายากที่ทำตลาดและอนุรักษ์พันธุ์พืชเหล่านี้ไว้นะครับ