สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

กะเพราแดง ปลูกง่าย ได้ผลผลิตยาว

กะเพราแดงงหรือใบกอมก้อของทางเหนือ เป็นพืชผักสมุนไพรพันธุ์หนึ่ง เช่นเดียวกับกะเพราขาว แต่มีลักษณะที่แตกต่างกัน โดยกะเพราแดงจะมีใบและกิ่งสีเขียวปนแดงคล้ำ และให้กลิ่นที่จัดจ้านมากกว่ากะเพราขาว ประเทศในทวีปเอเชียเราได้นำใบกะเพรามาปรุงอาหารมาช้านาน ทั้งนำมาปรุงสดๆ และนำมาใช้เป็นเครื่องเทศ แม้กระทั่งในผัดกระเพรา ที่ในกรุงเทพหรือภาคกลางอาจใช้กระเพราเขียว แต่หากขึ้นไปทางภาคเหนือ เราจะได้ลิ้มลองความจัดจ้านของกระเพราแดง เพราะทางเหนือนิยมใช้ใบกระเพราแดงมาเป็นวัตถุดิบในการผัดกระเพรามากกว่ากระเพราเขียวนอกจากนี้ยังมีการนำมาใช้เป็นยาทั้งในรูปแบบสดและแห้งด้วย เพราะกะเพราแดงมีน้ำมันหลายชนิดเป็นส่วนประกอบ ทั้งน้ำมันระเหยและไม่ระเหย

ปัจจุบันมีมีการพูดถึงฤทธิ์ทางยาของกะเพราแดงต่อร่างกายอย่างมากมาย จนถูกล่าวว่ากะเพราแดงเป็นยาครอบจักรวาล เพราะมีฤทธิ์เป็นยาได้หลายอย่าง ส่วนที่นิยมนำมาเป็นเครื่องยามากที่สุด คือ ส่วนของรากและใบ ซึ่งในการใช้ตามภูมิปัญญาชาวบ้านในตำรายาพื้นบ้านไทย นิยมนำไปใช้เพื่อรักษาโรคในทางเดินอาหาร แก้จุกเสียดแน่นเฟ้อ โดยนำใบสด 1 กำมือต้มในน้ำเดือดแล้วรอให้อุ่นจึงนำมาดื่มรักษาอาการได้ และยังนำไปปรุงเป็นแกงเลียงให้แม่ลูกอ่อนรับประทาน เพื่อให้เด็กอ่อนได้รับสารออกฤทธิ์ ป้องกันอาการท้องอืด

ส่วนของการออกฤทธิ์ในแบบเภสัชวิทยานั้น พบว่าน้ำมันระเหยที่สกัดจากกะเพราแดง ออกฤทธิ์บรรเทาการอักเสบ ลดบวม แก้ท้องร่วง บรรเทาอาการปวด ต้านแบคทีเรียในช่องปาก อุดมไปด้วยวิตามินซี ที่ออกฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ทั้งเบต้าแคโรทีนและสารฟลาโวนอยด์ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ สูงกว่าชาและกระเทียมด้วยนะครับ

กระเพราแดง เป็นไม้ล้มลุกขนาดเล็ก ชอบอากาศร้อน ลำต้นเฉลี่ยสูงประมาณ ไม่เกิน 70 เซนติเมตร การแตกใบจะแตกใบเดี่ยวแบบตรงข้าม ใบและลำต้นปกคลุมด้วยขนอ่อน ผลิดอกเป็นช่อปลายแหลม เรียงตัวกันเป็นชั้นๆ โดยสามารถปลูกกระเพราแดงในทุกสภาพดิน แต่ถ้าปลูกในดินที่โปร่งร่วน ระบายน้ำดี จะได้ผลผลิตดีกว่า สามารถปลูกได้ทั้งแบบเมล็ดที่จะต้องรอเวลาเพาะกล้าพันธุ์มากกว่าและการชำกิ่งที่สะดวกรวดเร็ว โดยต้องเว้นระยะการปลูกเผื่อต้นไม้แตกพุ่มราว 30 เซนติเมตร

การดูแลต้นกระเพราแดงนั้น ต้องหมั่นให้น้ำทั้งเช้าเย็น และต้องได้รับแดดเต็มวัน จึงจะให้ผลผลิตดี ที่สำคัญคือต้องหม่นตัดแต่งกิ่งเพื่อให้แตกยอดให้เก็บเกี่ยวใบได้ตลอด รอเวลาไม่เกิน 2 เดือนก็ได้เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ และถ้าหมั่นแต่งกิ่งเราจะสามารถเก็บเกี่ยวใบได้ทุก 3 สัปดาห์ เพาะปลูกแต่ละรุ่นก็เก็บเกี่ยวได้หลายปีเลยครับ

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook