สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

ชมพู่มะเหมี่ยว หวานอมเปรี้ยวถูกใจทุกวัย

ชมพู่มะเหมี่ยวเป็นไม้ผลพันธุ์หนึ่งในกลุ่มชมพู่ ซึ่งเป็นไม้ผลเขตร้อนมีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย จัดอยู่ตระกูลเดียวกับฝรั่ง หว้า และยูคาลิปตัส เป็นพืชที่ชอบน้ำ คนโบราณจึงนิยมปลูกเป็นไม้มงคลประจำบ้าน

ชมพู่มะเหมี่ยวเป็นชมพู่ที่มีขนาดลำต้นใหญ่ ใบกว้างหนาเป็นมัน ดอกสีแดง ก้านดอกสั้น ออกดอกเป็นกลุ่มตามกิ่ง ผลแก่จะมีสีแดงเข้ม มีกลิ่นหอมเหมือนกุหลาบ เนื้อนุ่มฉ่ำ เมล็ดโต รสชาติหวานอมเปรี้ยว มีลักษณะใกล้เคียงกับชมพู่สาแหรก แต่แตกต่างกันเพียงชมพู่สาแหรกจะมีสีแดงอมชมพู มีริ้วจากขั้วมาที่ก้นผล เนื้อผลมีสีขาว นุ่มรสชาติหอมหวานกว่า

ในอดีตชมพู่หลายชนิดนิยมปลูกกันทั่วไปเนื่องจากมีใบสวยงาม มีดอกที่มีเกษรตัวผู้เป็นปุยสีขาวสะดุดตา และมีกลิ่นหอมขณะที่ดอกกำลังบาน จึงนิยมปลูกเป็นไม้ประดับและให้ร่มเงาโดยสามารถรับประทานผลได้อีกด้วย

การขยายพันธุ์ชมพู่มะเหมี่ยวนั้นนิยมใช้การตอนกิ่งซึ่งเป็นวิธีที่นิยมมาช้านานและยังใช้อยู่จนถึงปัจจุบันโดยเริ่มจากการคัดเลือกกิ่งกระโดง หรือกิ่งที่แข็งแล้ว ควั่นรอบกิ่ง 2 รอยห่างกันเท่ากับเส้นรอบวงของกิ่ง แล้วกรีดและลอกเปลือกระหว่างรอยควั่นออก ขูดเยื่อเจริญออกให้หมด หุ้มด้วยขุยมะพร้าวชุ่มน้ำในถุงที่ผ่ากลางถุงแล้วมัดเชือกเป็นสองเปลาะ ทิ้งไว้ราว 1 เดือนก็จะเริ่มออกราก รอจนรากแก่เป็นสีน้ำตาลแล้วจึงตัดกิ่งไช้ำต่อไป

หรือหากเพื่อนๆเกษตรกรอยากจะปักชำก็ทำได้ เพราะเป็นอีกวิธีที่นิยมเช่นกัน โดยตัดกิ่งอ่อนสีเขียวที่มีใบ 3 คู่ แล้วปลิดใบคู่ล่างออก จุ่มฮอร์โมนเร่งรากชนิดเข้มข้น แล้วปักชำไว้ในถุงเพาะชำประมาณ 1 เดือนก็จะออกรากเช่นกันครับ แล้วเราค่อยย้ายไปชำในภาชนะต่อไป

การปลูกชมพู่มะเหมี่ยวสามารถปลูกได้ทั้งแบบยกร่องในที่ราบลุ่ม หรือปลูกในที่ดอนก็ได้ โดยทำการปรับสภาพดินใส่ปูนขาวและปุ๋ยคอกระหว่างทำการไถพรวนให้เรียบร้อย ขุดหลุมขนาด 50* 50* 50 แล้วรองพื้นด้วยปุ๋ยคอกก่อนที่จะนำต้นพันธุ์ชมพู่มะเหมี่ยวที่คัดเลือกไว้แล้ว ขยายรากออก แล้วนำลงหลุมปลูก อัดดินให้แน่น ตัดไม้และผูกเชือกยึดลำต้น พร้อมกับปักทางมะพร้าวพรางแสงในทิศตะวันออกและทิศตะวันตกไว้ แล้วจึงรดน้ำให้ชุ่ม รอจนต้นพันธุ์ตั้งตรงได้ จึงค่อยนำทางมะพร้าวออก

หลังจากชมพู่มีอายุพร้อมที่จะเก็บเกี่ยว ให้เราสังเกตได้จากผลชมพู่จะเต่ง อวบ สีแดงเข้ม ผิวเป็นมันเงา เพื่อนๆ เกษตรกรควรทำการเก็บได้เลยครับ เพราะหากทิ้งไว้เกินอายุการเก็บเกี่ยวจะทำให้ผลชมพู่แตกหรือร่วงเสียหายได้ การเก็บเกี่ยวก็ควรใช้กรรไกรตัดขั้วจะสะดวกและรวดเร็วกว่านะครับ ทีสำคัญต้องระวังอย่าให้ผิวชมพู่มะเหมี่ยวบอบช้ำเพราะจะทำให้ขายไม่ได้ราคานะครับ

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook