สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

ต้นจันผา ไม้ประดับที่มีสรรพคุณทางยา

ต้นจันผา หรือจะเขียนว่าจันทน์ผาหรือจันทน์ผาก็พบได้ และในจังหวัดสุราษฎร์ธานีบางพื้นที่เรียกว่า จันทน์แดง เป็นต้นไม้มงคลเรียกทรัพย์เรียกโชค และยังเชื่อว่าเป็นต้นไม้ที่เสริมบารมี สร้างความมั่นคงและเจริญก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงานที่คนรักต้นไม้นิยมหามาปลูกไว้ในรั้วบ้าน และยังมีสรรพคุณทางยาที่หมอพื้นบ้านและการแพทย์แผนโบราณได้นำมาใช้เป็นสมุนไพรรักษาอาการเจ็บป่วยมาช้านาน เป็นต้นไม้ในวงศ์ Asparagaceae  หรือหน่อไม้ฝรั่ง เช่นเดียวกับต้นรากสามสิบและต้นหมากผู้หมากเมีย

แต่ก่อนนั้นเราจะพบเห็นต้นไม้ชนิดนี้เจริญเติบโตในป่า โดยเฉพาะในพื้นที่หน้าผา ภูเขาหินต่างๆ  และนำมาขยายพันธุ์ปลูกเป็นไม้ประดับ ตกแต่งสวนในเวลาต่อมา โดยสามารถพบเห็นในสนามหญ้าของอาคารบ้านเรือนและตามสวนของโรงแรมและสนามกอล์ฟต่างๆ ด้วยลักษณะของลำต้นที่แปลกตา ลำต้นหนา ตระหง่าน โดดเด่น ไม่แตกกิ่ง พุ่มใบเรียวแหลมยาว 30-90 เซนติเมตรแตกออกเป็นกระจุกจากลำต้น อวดทรงของต้นและใบได้งามตายิ่งนัก มีความสูงราว 2-15 เมตร ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของสภาพแวดล้อมและสายพันธุ์ และยังแตกหน่อลำต้นออกมาได้ สีของลำต้นเป็นสีเทาอ่อนแต่จะมีสีเข้มขึ้นเมื่ออายุต้นแก่ขึ้น ต้นจันผาจะออกดอกเป็นกระจุกที่ปลายกิ่งสีขาวนวลเป็นช่อขนาดใหญ่ ช่อจะย้อยห้อยลงสู่ดิน มีกลิ่นหอมอ่อนๆ  ส่วนของผลนั้นจะมีลักษณะกลม แตกออกมาเป็นพวง ผลอ่อนจะมีสีเขียวและเริ่มมีสีเข้มขึ้นจนกลายเป็นสีแดงช้ำเมื่อแก่เต็มที่ เนื้อในของลำต้นเมื่อแก่เต็มที่จะมีสีแดงทั้งลำต้นก่อนที่เสื่อมโทรมและตายไป ในที่สุด

การขยายพันธุ์นั้นนิยมใช้วิธีเพาะเมล็ดและแยกกอ โดยดินที่นำมาปลูกนั้นควรเป็นดินที่ปรุงมาให้คล้ายกับบริเวณหน้าหินที่จันผาชอบ อาจจะใช้ดินภูเขา หากไม่มีดินภูเขาควรนำดินผสมเข้ากับหินและลูกรังเพื่อให้พืชเดินรากได้ดีและมีระบบรากที่สมบูรณ์ ยึดเกาะได้มั่นคง ซึ่งจะส่งผลให้ลำต้นสมบูรณ์และแข็งแรงมากกว่าการปลูกในดินร่วนทั่วไป ส่วนการดูแลนั้นต้องระมัดระวังเรื่องการให้น้ำ เพราะหากให้น้ำมากเกินไปอาจจะทำให้เกิดโรครากเน่าได้ จึงควรให้น้ำเพียง 1 ครั้งต่อ 3 วันก็เพียงพอแล้ว ส่วนของการตรวจตราเฝ้าระวังโรคนั้นต้องหมั่นสังเกตอาการทางใบหากพบอาการผิดปกติให้รีบกำจัดโรคและส่วนที่พบปัญหาให้ทันท่วงที เพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ ของต้นจันผาได้ เมื่อได้ต้นที่เติบโตเหมาะสมก็นำมาแยกลงกระถางสวยๆ นำไปประดับอาคาร หรือจะขุดไปลงสนามจัดเป็นไม้ประธานของสวนหินก็โดดเด่นสง่างามมากเลยครับ

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook