สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

ปลูกพริกไทย ปลูกง่ายๆได้ด้วยตัวเอง

เมื่อพูดถึงพริกไทยแล้วหลาย ๆ คนก็คงนึกถึงรสชาติที่เผ็ดร้อนขึ้นมาทันที คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักพริกไทยเพราะเครื่องเทศชนิดนี้มีมาตั้งแต่โบราณในสมัยอยุธยา ไทยเราเองก็ขึ้นชื่อเรื่องการส่งเครื่องเทศให้แก่ชาติตะวันออกรวมถึงชาติตะวันตกบางประเทศจนถึงปัจจุบัน

ในปัจจุบันประเทศไทยจะปลูกพริกไทยกันมากขึ้นในจังหวัดจันทบุรี เพื่อบริโภค ค้าขายและส่งออก เมื่อไม่นานมานี้ชาวบ้านพบเจอโรคที่ทำให้พริกไทยเสียราคาระบาดหนัก ทำให้มีเพื่อนๆ เกษตรกรหลายครัวเรือนหันไปปลูกพืชอย่างอื่นแทน เพราะกลัวโรคระบาดและกลัวขาดทุน แต่ถึงอย่างไรแล้วผู้บริโภคต่างก็ยังต้องการซื้อพริกไทยนำมาใช้ประโยชน์กันเป็นจำนวนมากเหมือนเช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็นการนำมาประกอบอาหาร เมนูเช่น ผัดคั่วกลิ้งหมูที่ใส่พริกไทยเม็ดสีเขียวลงไปในอาหาร หรือจะเป็นผัดเผ็ดต่างๆ รวมทั้งใช้พริกไทยที่แปรรูปเป็นเครื่องปรุงในการรับประทานอาหารอีกด้วย

แถมพริกไทยนั้นยังมีสรรพคุณเป็นยารักษาโรค ไม่ว่าจะเป็นการลดไข้ แก้ระบบทางเดินอาหารต่างๆ และยังพบสารระงับความเจ็บปวดซึ่งสามารถใช้เป็นยาระงับอาการเจ็บปวดได้อีกด้วยครับ โดยพริกไทยเป็นพืชที่พบในพื้นที่เขตร้อนชื้นและในทวีปเอเชียเท่านั้น จึงไม่แปลกที่หลายคนให้ความสนใจที่จะปลูกพริกไทยเพราะได้ประโยชน์และยังสร้างรายได้ได้อีกด้วยครับ

พริกไทยเป็นไม้เลื้อยที่จะเกาะเกี่ยวตามพื้นที่ต่างๆ มีลำต้นสูงถึง 30 เมตรหรือมากกว่านั้น มีกิ่งก้านแพร่ออกรอบลำต้นในลักษณะพุ่ม มีใบเรียงสลับตลอดแนวลำต้น พริกไทยจะมีลักษณะขึ้นเป็นรวงสีเขียวอ่อน เมื่อนำมาตากแห้งทั้งเปลือก ผลของพริกไทยจะเป็นสีดำใช้ในการนำมาทำเครื่องอาหารต่างๆ แต่หากเอาเปลือกออกก็จะเป็นพริกไทยขาวที่ผ่านการแปรรูปในตลาดห้างสรรพสินค้าทั่วไป

การปลูกพริกไทยโดยการใช้ต้นพันธุ์ในการปลูก เริ่มจากการเตรียมดินไว้ให้พร้อม ดินที่ดีและเหมาะสมในกระปลูกพริกไทยต้องเป็นดินร่วนซุยและมีอินทรีย์วัตถุมาก โดยใช้ดินหนึ่งส่วนผสมกับแกลบดิบสองส่วนและปุ๋ยคอกเก่าหนึ่งส่วน เมื่อพรวนให้เข้ากันแล้วก็นำมาใส่ในกระถางที่เตรียมไว้โดยกระถางจะต้องไม่แคบจนเกินไป ใส่ดินที่ผสมไว้ให้แน่น จากนั้นก็รดน้ำจนชื้นก่อนจะนำต้นพันธุ์พริกไทยที่มีรากมาปลูกลงดิน อย่าทำให้ดินแตกต้องค่อยๆ แกะถุงพลาสติกที่คุมรากออก โดยในขณะที่เอาต้นลงดินนั้นให้ใส่ดินไว้ก่อนเพียงแค่หนึ่งส่วนสาม เมื่อเอาต้นลงแล้วก็นำดินที่เหลือใส่ลงไปและใช้ใบไม้แห้งใส่ทับด้านบนอีกครั้ง ก่อนจะรดน้ำให้ดินชุ่มชื้น แค่นี้ก็ฌป็นอันเสร็จพิธีครับ รอเวลาเก็บผลผลิตกันได้เลยครับ

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook