สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่ https://tarr.arda.or.th/ปี 2565

ผักหวานบ้าน ให้ผลผลิตเร็วและเก็บเกี่ยวได้ยาวนาน

ยอดอ่อนผักหวาน นิยมนำมาทานเป็นผักสดแนมกับ ลาบ น้ำพริก เพื่อให้รสหวานของยอดอ่อนช่วยชูรสอาหาร หรือบางบ้านยังนำไปปรุงเป็นเมนูแกงต่างๆ หรือลวกทานกับก๋วยเตี๋ยว ด้วยความที่เป็นพืชที่เติบโตง่าย ทนต่อสภาพแวดล้อม ทำให้ต้นผักหวานบ้านกลายเป็นพืชปลอดสารพิษ จนผู้บริโภคให้ความสนใจนำมารับประทานเพิ่มมากขึ้น ทำให้ตลาดรองรับขยายขึ้นมาก ทั้งผู้บริโภคที่นำไปทำอาหารและร้านอาหารต่างๆ ที่นำไปประกอบอาหาร ทำให้เป็นโอกาสสำหรับเพื่อนๆ เกษตรกรที่สนใจจะปลูกเชิงการค้ากันเลยครับ  เพราะทำราคาได้ดีทีเดียว

ผักหวานบ้านที่นิยมปลูกมีอยู่ 2 สายพันธุ์ พันธุ์แรกคือพันธุ์นวล มีใบขนาดเล็ก ให้ผลผลิตดี ยอดเรียว สีนวล ไม่มีกลิ่นเหม็นเขียว รสหวาน เนื้อกรอบ ส่วนอีกพันธุ์คือพันธุ์สายน้ำผึ้ง ยอดสมบูรณ์กว่าพันธุ์แรก ได้น้ำหนักดี ใบใหญ่เมื่อเทียบกับพันธุ์สีนวล รสชาติไม่แตกต่างกัน ลำต้นมีความสูงไม่เกิน 3 เมตร ตั้งตรง แตกแขนงมากในทั่วทุกส่วนของลำต้นเป็นทรงพุ่มแน่นหนา เนื้อไม้เปราะ เมื่อแต่งกิ่ง จะยิ่งแทงยอด

หากเพื่อนๆ เกษตรกรคิดจะปลูกผักหวานบ้าน สิ่งสำคัญคือต้องยกแปลงปลูกกันน้ำขัง เพราะผักหวานบ้านไม่ทนต่อสภาพน้ำขังแฉะ เตรียมแปลง นำดินคลุกเคล้ากับปุ๋ยคอก ให้แปลงกว้างราว 1 เมตร เว้นระยะต้น 50 เซนติเมตร สำหรับเข้าไปเก็บเกี่ยวและดูแลได้ง่าย เราสามารถปลูกได้ถึง 2,000 ต้นต่อพื้นที่ปลูก 1 ไร่ การขยายพันธุ์ นิยมใช้วิธีการปักชำในถุงดำที่ใส่ขี้เถ้าแกลบ ลึก 1 ส่วน 3 ของความยาวกิ่ง เสียบในแนวตั้ง วางไว้ในที่ร่ม รดน้ำ ไม่เกิน 2 เดือนก็ย้ายลงแปลงปลูกได้แล้วครับ หลังจากต้นผักหวานเริ่มตั้งตรง ให้ตัดยอดด้วยกรรไกรให้แตกยอดใหม่ และหากพบยอดไหนไม่งามให้ทำการตัดทิ้งทันที เพื่อให้แตกยอดที่ดีกว่าเสมอ การให้น้ำนิยมใช้ระบบสปริงเกอร์ ที่ติดตั้งสูงกว่าดินไม่น้อยกว่า 1 เมตร เพื่อให้รดน้ำตั้งแต่ยอด ช่วยกำจัดแมลงไปในตัว และต้องให้ปุ๋ยคอกทุก 3 เดือน เพื่อให้ผลผลิตมีคุณภาพ

ไม่เกิน 1 เดือนก็ต้องเริ่มตัดแต่งกิ่งผักหวานเพราะเมื่อเราตัดยอดออก ผักหวานจะแตกยอดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รอจนลำต้นสูงราว 1.5 เมตร ก็ทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ เมื่อต้นเริ่มสูงขึ้นให้ตัดต้นออก ให้เหลือความสูงไม่เกิน 1 เมตร ใช้เวลาไม่เกิน 10 วัน ก็จะแตกยอดใหม่ให้เราเก็บผลผลิตได้ต่อเนื่องไปอย่างน้อย 10 ปีเลยครับ เทคนิคการเก็บรักษาหลังเก็บเกี่ยวก็เพียง นำผ้าชุบน้ำมาคลุมบนกระสอบหรือถุงที่ใส่ผักที่เราเก็บเกี่ยวลงมา เพื่อรักษาความชื้นของยอดผัก ได้ทั้งน้ำหนักและได้ทั้งความสดครับ

สามารถสืบค้นผลงานวิจัยและองค์ความรู้การเกษตร ได้ที่  https://tarr.arda.or.th

พันธมิตร

Chulabook